ตลาดเต็มไปด้วยพหุสัจ ในขณะที่เส้นทางความเป็นส่วนตัวบ่อยครั้งทำให้ผิดหวัง ความเป็นส่วนตัวข้อมูลตามอุดมคติทำให้เรากระตือรือร้น ความเป็นส่วนตัวยังคงเป็นความฝันที่อยู่อย่างยั่งยืนในโลกที่เข้ารหัส

การเข้ารหัสเป็นภาษาพื้นฐานของบล็อกเชน ตอนแรกเมื่อเราเรียนรู้เกี่ยวกับการเข้ารหัสโฮโมอร์ฟิก (HE) เราก็ยังคงโต้แท้ถึงความเป็นไปได้ของพิสูจน์ทางศาสตร์ศูนย์ (ZK) ที่จะนำมาใช้ในบล็อกเชน แต่ตอนนี้เราได้ย้ายไปพูดถึงความสามารถของ ZK และเมื่อควรใช้ HE แทน

สำหรับผู้หลายคน ด้านเทคนิคของการเข้ารหัสดูเหมือนไกลออกไป มีการเข้าถึงทางวิชาชีพสูงทำให้ยากสำหรับนักลงทุนรายได้ทั่วไปในการมีส่วนร่วม อย่างไรก็ตามในเดือนธันวาคมของปีที่แล้ว พร้อมกับการระเบิดของ AI + Crypto ฉันสังเกตเห็นว่าบางนักลงทุนจากยุโรปและอเมริกาเริ่มสนใจใน FHE track ในวันที่ 5 พฤษภาคม ปีนี้ Vitalik Buterin แชร์บทความเก่าจากปี 2020 ที่มีชื่อว่าการสำรวจการเข้ารหัสแบบ Fully Homomorphic Encryption,” ระบุว่า “many people are interested in FHE lately.ในระหว่างนั้น พอดแคสต์และแพลตฟอร์มการแข่งขันที่เน้น FHE ก็เริ่มเกิดขึ้น

ดังนั้น FHE คืออะไรแท้จริงที่ซ่อนอยู่ในอุโมงค์งาช้าง? มีการใช้งานอย่างไร? ทำไมทุนถึงสนใจมันอย่างมาก? ในวันนี้ Foresight News จะสรุปโครงการ 25 โครงการในแนวทาง FHE ที่ครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐาน, ซีเชนสาธารณะ, เครือข่าย DePIN, ปัญญาประดิษฐ์, เกม, DeFi และสาขาอื่น ๆ

FHE (Fully Homomorphic Encryption) คืออะไร?

การเข้ารหัสโฮโมมอร์ฟิก (HE) ถูกเสนอครั้งแรกในปี ค.ศ. 1978 เพื่อที่จะแก้ปัญหาในการประมวลผลข้อมูลโดยไม่ต้องเข้าถึงข้อมูลโดยตรง อย่างไรก็ตาม จนถึงปี ค.ศ. 2009 ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีการเข้ารหัสโฮโมมอร์ฟิกได้ช้าลง จำกัดอยู่ที่การเข้ารหัสโฮโมมอร์ฟิกบางส่วน (PHE) ที่สามารถจัดการได้เฉพาะการบวกหรือการคูณเท่านั้น ในปี ค.ศ. 2009 กรั้วเทรีเดนตีเสนอในเอกสารที่มี 200 หน้าระบบการเข้ารหัสแบบ Fully Homomorphic“ นำเสนอกลไกครั้งแรกที่รองรับจำนวนการบวกและการคูณที่ไม่จำกัดที่รู้จักกันด้วยการเข้ารหัสแบบเต็มโฮโมอร์ฟิก (FHE) ซึ่งเป็นการพัฒนาที่สำคัญในเทคโนโลยี FHE

ในขณะที่การพิสูจน์ที่ไม่เปิดเผยข้อมูล (ZKP) มักถูกพิจารณาว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในด้านการเข้ารหัสลับ FHE มีความสำคัญเช่นเดียวกันกับวิสัยท้ายที่ยิ่งใหญ่ขึ้น. ความแตกต่างระหว่าง ZKP และ FHE อยู่ที่ ZKP สามารถพิสูจน์ความถูกต้องและความเชื่อถือของข้อมูลโดยไม่เปิดเผยข้อมูลจริงๆ การเล่นบทบาทที่สำคัญในการบีบอัดต้นทุนใน Layer 2

FHE มีจุดมุ่งหมายเพื่อทําให้การคํานวณ "คํานวณได้ แต่มองไม่เห็น" อัลกอริธึมการเข้ารหัสแบบดั้งเดิมต้องการการถอดรหัสก่อนที่จะทําการคํานวณบนข้อความเข้ารหัสทําให้ไม่สามารถประมวลผลข้อมูลที่เข้ารหัสได้โดยตรง อย่างไรก็ตาม FHE ขจัดความต้องการนี้ สามารถทําการคํานวณโดยตรงกับข้อมูลที่เข้ารหัส (ciphertext) ให้ผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับการคํานวณข้อความธรรมดา ลองนึกภาพว่าเราห่อหุ้มข้อมูล A ไว้ในกล่องดํา (การเข้ารหัส) เมื่อเราส่งกล่องดํานี้ไปยังผู้รับไม่จําเป็นต้องแยกเนื้อหา ผู้รับสามารถทําการคํานวณบนกล่องดําได้โดยตรงโดยไม่รั่วไหลข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับข้อมูล A จึงได้รับความเป็นส่วนตัวอย่างสมบูรณ์ในการคํานวณข้อมูล

ฉากการใช้งานของ FHE มีความหลากหลายมาก ไม่ได้ถูกจำกัดไว้ที่ Web3 และบล็อกเชนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงข้อมูลความเป็นส่วนตัวใด ๆ ภายในระบบอินเทอร์เน็ตทั้งหมด รวมถึงโฆษณา การแนะนำที่ปรับให้เป็นรูปแบบส่วนตัว AI เกม ธุรกรรมบนโซน การป้องกัน MEV การประมูลพื้นที่บล็อกเชน การลงคะแนนบนโซน การโจมตีแบบ anti-sybil การเรียนรู้ของเครื่อง ด้านสุขภาพ การเงิน การประมวลภาษาธรรมชาติ และอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ FHE ไม่ได้ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายเป็นเพราะความซับซ้อนทางคำนวณและภาระที่สูงขึ้นอย่างมีนัยยะ ปัจจุบัน ความเร็วในการคำนวณของ FHE ช้าลงถึงสี่ถึงห้าระดับของลำดับที่ช้ากว่าการคำนวณข้อความธรรมดา (ช้าลง 10,000 ถึง 100,000 ครั้ง)

แม้ว่า FHE จะปกป้องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล แต่มันไม่รับรองความสมบูรณ์ทางคำนวณ ดังนั้นมันสามารถรวมกับ ZKP ในปีสุดท้าย การรวม ZKP และ FHE มีความท้าทายทางเทคนิค ร่วมกับความต้องการทางคำนวณที่สูงของ FHE ทำให้มันยากต่อการใช้งานในโลกบล็อกเชน อย่างไรก็ตาม มีความคืบหน้ามากในเทคโนโลยี FHE ในหลายปีที่ผ่านมา และมีความเป็นไปได้ที่จะรวม ZKP และ FHE โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยการประยุกต์ใช้ฮาร์ดแวร์เพิ่มความเร็วในฟิลด์ของ ZKP และการเกิดขึ้นของ DePIN ซึ่งนำมาซึ่งศักยภาพให้กับเครือข่ายคอมพิวเตอร์โดยรวมมาดูทั้งหมด โดยรวม ศักยภาพและพื้นที่ที่สามารถนึกภาพของ FHE ไม่น้อยกว่า ZKP

ฮาร์ดแวร์เร่งความเร็ว

เนื่องจากจำนวน polynomial ที่มีมากเกินไปในกระบวนการคำนวณ CPU จึงไม่มีประสิทธิภาพในการจัดการงานนี้อย่างชัดเจน ในที่สุดเรายังคงต้องการ GPU, FPGA, และ ASIC สำหรับการเร่งความเร็วฮาร์ดแวร์ Lattica AI ได้ทดสอบ GPU acceleration และ CUDA implementation ของ FHE solutions หาก GPU สามารถทำได้เช่นนี้ FHE acceleration จะเป็นที่แยกกันอย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม FPGA และ ASIC ยังคงเป็นตัวเลือกสุดท้ายสำหรับการเร่งความเร็ว

Ingonyama

เมื่อพูดถึง ZKP, FHE และการเร่งความเร็วด้านฮาร์ดแวร์ หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันที่แข็งแกร่งที่สุดในสาขานี้คือ Ingonyama. ก่อตั้งขึ้นในปี 2022 โดย Shlomovits, ผู้สำเร็จการศึกษาจากหน่วย 8200 ของหน่วยข่าวของอิสราเอล อินโกนยามาคือบริษัทผู้ผลิตชิปสำคัญของตัวเองที่เป็นหน่วยประมวลผลระบบซีพียูที่สามารถโปรแกรมได้ที่คล้ายกับ GPU แต่ออกแบบมาเพื่อเร่งความเข้าใจในการเข้ารหัสขั้นสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งการพิสูจน์ทฤษฎีศาสตร์ศูนย์ศูนย์ (ZKP) และการเข้ารหัสโฟมอร์ฟิกแบบเต็ม (FHE) ในขณะที่ Ingonyama ให้ความสำคัญกับ ZKP อยู่ในปัจจุบัน แต่ด้านการคำนวณของ ZKP มีความเกี่ยวข้องกับ FHE ซึ่งทำให้มีเหตุผลที่ Ingonyama จะเร่งความเร็วของ FHE ในอนาคต

เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทเร่งความเร็วฮาร์ดแวร์ ZKP Accseal (智芯华玺) เข้าสู่หนึ่งในความร่วมมือกับ Ingonyama ผลิตภัณฑ์ของพวกเขา คือ Leo และ ICICLE v3 จะถูกผสานเข้าด้วยกัน Accseal ได้พัฒนาชิป ZK ASIC มาก่อน และความร่วมมือของมันกับ Ingonyama จะลดต้นทุนการคำนวณสำหรับผู้ใช้อย่างมีนัยยะอย่างมากพร้อมกับการปรับปรุงประสิทธิภาพในการคำนวณ

ในเดือนพฤศจิกายน 2023 Ingonyama ได้ทำการระดมทุนรอบต้นแบบมูลค่า 20 ล้านเหรียญดอลลาร์ฯ ภายใต้การนำทีมของ Walden Catalyst โดยมีการเข้าร่วมจาก Geometry, BlueYard Capital, Samsung Next, Sentinel Global, และ StarkWare ในเดือนมกราคม 2024 Ingonyama ได้ทำการระดมทุนรอบต้นแบบอีก 21 ล้านเหรียญดอลลาร์ฯ ภายใต้การนำทีมของ IOSG Ventures, Geometry, และ Walden Catalyst Ventures

Cysic

Cysicเป็น บริษัท ระบบเร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ ที่ตั้งตำแหน่งเพื่อให้บริการการสร้างและการตรวจสอบการพิสูจน์ที่ไม่มีข้อมูลใด ๆ ในเวลาจริง (ZK) พวกเขานำเสนอ ZK Computing as a Service (ZK-CaaS) ที่ขึ้นอยู่กับ ASICs, FPGAs และ GPUs ที่พัฒนาในบ้าน Cysic มีฮาร์ดแวร์ FPGA ที่พัฒนาขึ้นเองและมีแผนที่จะเปิดตัวชิป/อุปกรณ์ ZK DePIN เช่น ZK Air และ ZK Pro โดยสร้างเครือข่าย Prover สำหรับ DePIN

ตาม Leo Fan, ผู้ร่วมก่อตั้ง Cysic, ZK และ FHE มีโมดูลที่หลายประการมีข้อสัมพันธ์กัน และมากของงานปัจจุบันของ Cysic สามารถนำไปใช้ในดาวเทียม FHE ได้ นอกจากนี้ Leo ยังเคยมีส่วนร่วมในการวิจัย FHE สำหรับ Taiko และ HashKey Capital, และได้เผยแพร่เอกสารเกี่ยวกับ FHE ด้วย สามารถคาดเดาได้ว่า Cysic ยังจะกลายเป็นตัวช่วยในด้านฮาร์ดแวร์สำหรับ FHE ในอนาคต

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 Cysic เสร็จสิ้นรอบทุนเริ่มต้น 6 ล้านดอลลาร์ ซึ่งนำโดย Polychain Capital มีการเข้าร่วมจาก HashKey, SNZ Holding, ABCDE, A&T Capital และมูลนิธิ Web3.com Foundation

การอ่านแนะนำ: “เมื่อ ZKP เข้าต่อกับ DePIN, วิธี Cysic ทำให้ PoW กลับมาสู่ Ethereum?”

Chain Reaction

สันเครื่อง反ชีวิต เป็นบริษัทสตาร์ทอัพชิปบล็อกเชนที่เริ่มผลิตชิปบล็อกเชน Electrum จํานวนมากในไตรมาสแรกของปีนี้ ชิปได้รับการออกแบบมาเพื่อดําเนินการบล็อกเชนที่เรียกว่า "การแฮช" อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และยังสามารถใช้สําหรับการขุดสกุลเงินดิจิทัลเช่น Bitcoin นอกจากนี้ พวกเขาวางแผนที่จะเปิดตัวชิป FHE ภายในสิ้นปี 2024 ทําให้ผู้ใช้สามารถประมวลผลข้อมูลในขณะที่เข้ารหัสไว้

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 Chain Reaction ได้ทำการระดมทุนรอบที่ 3 มูลค่า 70 ล้านดอลลาร์ฯ โดยมี Morgan Creek Digital เป็นผู้นำทัพ ทุนเหล่านี้จะถูกใช้ในการขยายทีมวิศวกรของพวกเขา ทำให้เงินทุนรวมไปถึง 115 ล้านดอลลาร์ฯ

Optalysys

Optalysys เป็นแพลตฟอร์มการเร่งฮาร์ดแวร์เฉพาะสําหรับ FHE (Fully Homomorphic Encryption) พวกเขากําลังสร้างฮาร์ดแวร์ที่สามารถใช้งาน FHE ขนาดใหญ่ผ่านการประมวลผลแบบออปติคัล Optalysys ได้เปิดตัวโปรแกรมเร่งความเร็วรวมถึงเครื่องจําลองซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ พวกเขากําหนดเป้าหมายการคํานวณอย่างเข้มข้นทั่วไปในทุกรูปแบบ FHE ให้การเร่งความเร็วสําหรับโซลูชันคอมพิวเตอร์ที่เป็นความลับทั้งหมด ผลิตภัณฑ์ปัจจุบันของ Optalysys คือชิปโฟโตนิกส์ไฮบริด Optalysys Etile ซึ่งรวมอินเทอร์เฟซดิจิทัลเข้ากับเทคโนโลยีซิลิคอนโฟโตนิกส์และรวมเข้ากับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ดิจิทัลแบบดั้งเดิมในโมดูลหลายชิปโดยมีแกนหลักคือวงจรโฟโตนิก

พื้นฐานของโครงสร้างพื้นฐาน

Zama

Zamaเป็นบริษัทเข้ารหัสซอร์สโอเพนที่สร้าง FHE (Fully Homomorphic Encryption) สำหรับบล็อกเชนและ AI มีกำเนิดในต้นปี 2020 โดย Hindi และ Pascal Paillier ซึ่ง Paillier เป็นนักเขียนรหัสชื่อดังและเป็นหนึ่งในผู้ประดิษฐ์ที่สำคัญของเทคโนโลยี Fully Homomorphic Encryption (FHE)

เป็นผู้ให้บริการ Zama นำเสนอ FHE solutions สำหรับโครงการ Web3 ซึ่งรวมถึง TFHE-re library TFHE compiler Concrete privacy-preserving machine learning Concrete ML และ confidential smart contracts fhEVM Zama มุ่งเน้นไปที่ TFHE Threshold Fully Homomorphic Encryption โดย TFHE-re เป็นการนำ Rust โดยเฉพาะมาใช้สำหรับการคำนวณบูลีนและจำนวนเต็มบนข้อมูลที่เข้ารหัสแล้ว Developers และ researchers สามารถควบคุม TFHE ได้อย่างละเอียดเพื่อให้มุ่งเน้นไปที่ความสามารถขั้นสูง fhEVM รวม TFHE-re เข้าไปใน Ethereum Virtual Machine EVM เพื่อเปิดเผยการดำเนินการโฮโมอร์ฟิกเป็นสัญญาที่ถูกคอมไพล์ล่วงหน้า ทำให้ developers สามารถใช้ข้อมูลที่เข้ารหัสในสัญญาโดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนเครื่องมือคอมไพล์

ในวันที่ 7 มีนาคม 2024 Zama ดำเนินการรอบทุนระดับ A จำนวน 73 ล้านดอลลาร์ โดยมี Multicoin Capital และ Protocol Labs เป็นผู้นำ มีการเข้าร่วมจาก Metaplanet, Blockchange Ventures, Vsquared Ventures, Stake Capital, ผู้ก่อตั้ง Filecoin Juan Benet, ผู้ก่อตั้ง Solana Anatoly Yakovenko, และ ผู้ก่อตั้ง Ethereum และ ผู้ก่อตั้ง Polkadot Gavin Wood ทุนที่ระดับได้รับจะถูกใช้ในการศึกษาวิจัยและพัฒนาเครื่องมือ FHE ของพวกเขาต่อไป

PADO

PADOเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบกระจายที่ขึ้นอยู่บน zkFHE (Zero-Knowledge Fully Homomorphic Encryption) มีเป้าหมายสุดท้ายคือการพัฒนาอัลกอริทึม zkFHE หลากหลายที่สามารถรองรับแอปพลิเคชัน ML และฟังก์ชันการทำงาน VM ที่กว้างขวางมากขึ้น สิ่งนี้จะขยายขอบเขตของสถานการณ์การใช้งานของมันทำให้ความสามารถใดๆ ในการคำนวณเป็นโหนดและให้บริการแก่เครือข่าย ในปัจจุบัน PADO Labs กำลังสร้างส่วนประกอบพื้นฐานรวมถึงส่วนขยาย PADO เครื่องมือนักพัฒนา และ SDK โหนด

ความสำเร็จทางเทคนิคที่สำคัญที่สุดของ PADO คือการรวม zk-SNARK กับ FHE เพื่อให้มั่นใจในความถูกต้องและความสามารถในการตรวจสอบข้อมูลความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ PADO รวม MPC (Multiparty Computation), IZK (Interactive Zero-Knowledge Proofs), และ zkFHE ตามแผนงานทางเทคนิคของ PADO การโฟกัสในระยะสั้นของมันคือการเสริมความสามารถของโปรแกรม (F)HE และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ปรับแต่งเพื่อสนับสนุน

การประยุกต์ใช้ zkFHE หน้าที่หลักของพวกเขาในปัจจุบันคือการทำให้อัลกอริทึม FHE มีประสิทธิภาพสูงสุดและการผสมส่วนประกอบ ZK เพื่อให้มั่นใจได้

โครงการ PADO ในช่วงแรกโดยทั่วไปรองรับการดำเนินการเชิงเส้น ลดเวลาในการพิสูจน์ข้อความที่เข้ารหัสด้วยการดำเนินการบวกที่มีความหมายเป็นกลางไปที่ประมาณ 0.7 วินาที ซึ่งมีโอกาสลดลงไปยิ่งนักไปสู่ 0.1 วินาทีในอนาคต โดยเปรียบเทียบกับโซลูชันของ Zama โครงการ PADO ลดเวลาคำนวณสำหรับการดำเนินการเปรียบเทียบเชิงเส้นลงครึ่งหนึ่ง PADO ยังขยายการสนับสนุนไปสู่พื้นที่ข้อความที่ใหญ่ขึ้น เช่น u8/u16/u32 ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นตามสองเท่า เพิ่มเติม ประสิทธิภาพของ zkFHE ที่เป็นทั่วไปสามารถเพิ่มขึ้น 3 ถึง 5 เท่าด้วยการช่วยเหลือของ Zama ในเรื่องภาษาในการพัฒนา PADO รองรับภาษาที่พบบ่อย เช่น Python และ Rust

ในแง่ของการใช้งาน PADO มุ่งเน้นในปัจจุบันคือสถานการณ์การแบ่งปันข้อมูลภายในระบบนิเวศ AO และ Arweave ในเดือนเมษายนของปีนี้ PADO ได้ร่วมมือกับ AO เพื่อริเริ่ม Verifiable Confidential Computing (VCC) ซึ่งจะจัดตั้งขึ้นใน AO PADO จะค่อยๆสร้างหน่วยประมวลผลแบบกระจายอํานาจตาม AO และจะใช้ Arweave blockchain เป็นเลเยอร์การจัดเก็บข้อมูลความเป็นส่วนตัว ผู้ใช้สามารถเข้ารหัสข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยี zkFHE ของ PADO และจัดเก็บไว้อย่างปลอดภัยบนบล็อกเชน Arweave คําขอคํานวณใด ๆ ภายในระบบนิเวศ AO จะถูกส่งไปยังโหนดคอมพิวเตอร์ PADO ผ่านหน่วยการจัดกําหนดการ AO หน่วยประมวลผลเหล่านี้จะดึงข้อมูล ciphertext ของผู้ใช้บน Arweave และดําเนินการคํานวณแบบ homomorphic อย่างสมบูรณ์และหลักฐานความสมบูรณ์ของการคํานวณตามคําขอ

ในปี 2023, PADO ได้สำเร็จระดับเมล็ด $3 ล้าน

ครีมกันแดด

ครีมกันแดด เป็นสตาร์ทอัพที่เน้นความเป็นส่วนตัวโดยมีเป้าหมายเพื่อให้วิศวกรสามารถสร้างและปรับใช้แอปพลิเคชันส่วนตัวได้อย่างง่ายดายโดยใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสเช่น Fully Homomorphic Encryption (FHE) ครีมกันแดดมีคอมไพเลอร์ FHE แบบโอเพนซอร์สซึ่งเป็นคอมไพเลอร์ Web3-native ที่แปลงฟังก์ชัน Rust ปกติเป็นฟังก์ชันเทียบเท่า FHE ที่รักษาความเป็นส่วนตัว คอมไพเลอร์นี้ให้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดสําหรับการดําเนินการทางคณิตศาสตร์เช่น DeFi โดยไม่จําเป็นต้องเร่งฮาร์ดแวร์ คอมไพเลอร์ FHE ยังสนับสนุนโครงการ BFV FHE อีกด้วย ครีมกันแดดยังทํางานบนคอมไพเลอร์ ZKP ที่เข้ากันได้กับคอมไพเลอร์ FHE เพื่อให้แน่ใจว่ามีความสมบูรณ์ในการคํานวณ แต่กระบวนการพิสูจน์โดยรวมสําหรับการดําเนินการแบบ homomorphic นั้นช้า นอกจากนี้ Sunscreen กําลังสํารวจระบบจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายอํานาจสําหรับจัดเก็บข้อความเข้ารหัส FHE

ในเชิงถนัดของแผนการ Sunscreen วางแผนที่จะสนับสนุนธุรกรรมส่วนตัวในเครือข่ายทดสอบก่อน จากนั้นก้าวไปสนับสนุนโปรแกรมส่วนตัวที่กำหนดไว้ และในที่สุดอนุญาตให้นักพัฒนาเขียนโปรแกรมส่วนตัวตามที่ต้องการโดยใช้ FHE และ ZKP compilers ของ Sunscreen

ในเดือนกรกฎาคม 2022 สตาร์ตอัพด้านความเป็นส่วนตัว Sunscreen ได้ปิดรอบทุนเริ่มต้นมูลค่า 4.65 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมี Polychain Capital เป็นผู้นำ พร้อมมีการเข้าร่วมจาก Northzone, Coinbase Ventures, dao5, และนักลงทุนรายบุคคลรวมถึง Naval Ravikant และ Tux Pacific ผู้ก่อตั้ง Entropy โดย Sunscreen ถูกก่อตั้งขึ้นโดย Ravital Solomon และ MacLane Wilkison ผู้ร่วมก่อตั้งเครือข่ายความเป็นส่วนตัว NuCypher โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ขึ้นอยู่บน Fully Homomorphic Encryption โดยวิศวกร ก่อนหน้านี้ Sunscreen ได้ระดมทุนรอบ pre-seed มูลค่า 570,000 ดอลลาร์

SherLOCKED

SherLOCKEDเป็นโครงสร้างพื้นฐานความเป็นส่วนตัวบนบล็อกเชน EVM ที่ใช้ Fully Homomorphic Encryption (FHE) เป็นพื้นฐาน เจ้าของพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถใช้งานเพื่อเขียนสัญญาหลักทรัพย์ที่กำหนดเองที่ทำงานกับข้อมูลที่เข้ารหัสบนบล็อกเชน กล่าวอีกอย่างคือ มันเข้ารหัสข้อมูลธุรกรรมสาธารณะบนโซ่ ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงได้โดยใครเนื่องจากข้อมูลบล็อกเชนจะปรากฏในรูปแบบที่เข้ารหัส

สูตรสําหรับ SherLOCKED คือ ZK + MPC + FHE ซึ่งประกอบด้วยสามองค์ประกอบ: SherLOCKED SDK เครือข่ายโหนดและโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผล zkVM เมื่อผู้ใช้ส่งธุรกรรมไปยังสัญญาอัจฉริยะก่อนที่จะเรียกใช้ฟังก์ชัน on-chain เครือข่ายโหนดจะเข้ารหัสข้อมูลโดยใช้ MPC และส่งข้อมูลที่เข้ารหัสไปยัง SDK จากนั้น SDK จะเรียกฟังก์ชันสัญญาอัจฉริยะที่มีข้อมูลที่เข้ารหัสเป็นพารามิเตอร์ และสัญญาอัจฉริยะจะทํางานบนข้อมูลที่เข้ารหัส (ข้อความเข้ารหัส) เนื่องจากการคํานวณข้อมูลที่เข้ารหัสใช้ Gas จํานวนมาก SherLOCKED จึงจ้างการคํานวณนี้ไปยังคอมพิวเตอร์ RISC Zero proof (Bonsai) ที่ใช้ zkVM ซึ่งทําการคํานวณและให้หลักฐาน ZK ในที่สุดหลักฐานนี้ได้รับการตรวจสอบโดยผู้ถ่ายทอดและผู้ตรวจสอบความถูกต้องบนโซ่ SherLOCKED สามารถปรับใช้บนเครือข่าย EVM ใดก็ได้

SherLOCKED ถูกสร้างขึ้นโดย Nitanshu, ผู้ร่วมก่อตั้งของ Rize Labs, ในระหว่างการแข่งขัน hackathon ของ ETHOnline ที่จัดขึ้นในเดือนตุลาคม 2023 และได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ รับการยอมรับ ณ ปัจจุบัน ที่เก็บรหัสของ SherLOCKED บน GitHub ยังไม่ได้รับการอัพเดทมา 7 เดือน

Fair Math

Fair Math เป็น บริษัท วิจัยที่ใช้แนวทางโอเพ่นซอร์สและชุมชนที่มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีการปกป้องความเป็นส่วนตัวโดยใช้การเข้ารหัสแบบ Homomorphic (FHE) อย่างสมบูรณ์ ในเดือนเมษายน 2024 Fair Math ได้เปิดตัว "Collaborative FHE-(E)VM Manifesto" โดยมีเป้าหมายเพื่อออกแบบ FHE-(E)VM ในลักษณะแยกส่วน สิ่งนี้ทําให้ FHE-(E)VM เวอร์ชันต่างๆ สามารถอยู่ร่วมกันได้ โดยใช้เวอร์ชันข้อมูลจําเพาะเป็นข้อมูลอ้างอิงมาตรฐานสําหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันที่รองรับ FHE

แถลงการณ์ยังเสนอการสร้างแพลตฟอร์มการแข่งขัน FHERMA ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือกับ OpenFHE ซึ่งอุทิศตนเพื่อให้ความรู้และจูงใจในการพัฒนา FHE ผ่านการแข่งขันที่มีโครงสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ ตามแผนแพลตฟอร์มจะเริ่มความท้าทาย FHE มากกว่า 25 รายการในปี 2024 Poly Circuit เป็นไลบรารีส่วนประกอบ FHE ระดับแอปพลิเคชันที่สร้างขึ้นผ่านการแข่งขัน FHERMA เมื่อกําหนดผู้ชนะของความท้าทายแล้วโซลูชันของพวกเขาจะถูกเพิ่มลงในที่เก็บผ่าน PR ในทางกลับกัน OpenFHE-rs เป็นโครงการร่วมระหว่าง Fair Math และ OpenFHE เป็นไลบรารี FHE Rust ที่ครอบคลุมที่สุดในไลบรารีส่วนประกอบ FHE ซึ่งมีให้สําหรับนักพัฒนา Rust ที่จะใช้

ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 Fair Math ได้เสร็จสิ้นรอบทุนช่วงก่อนการปลูกเมล็ดระดับ 1.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งได้รับนำโดย gumi Cryptos Capital, Inception Capital, และ Polymorphic Capital เพื่อส่งเสริมการนำ FHE มาใช้งาน

AntChain

AntChain TrustBaseเป็นนิวคลิปเทคโนโลยีภายใต้ AntChain ซึ่งรวมถึงอัลกอริทึมของเครือข่ายพื้นที่กว้าง ศาสตร์ศิลป์ที่ไม่มีข้อจำกัด การเข้ารหัสโฟมอร์ฟิกชันเต็มรูปแบบ และอื่น ๆ

โซ่สาธารณะ

Fhenix

Fhenixเป็น Ethereum Layer 2 (L2) ที่รองรับโดย FHE Rollups และ FHE Coprocessors ที่เข้ากันได้อย่างสมบูรณ์กับ EVM และมีการสนับสนุนอย่างเป็นรากฐานสำหรับ Solidity โดยสามารถทำสัญญาฉลาดด้วยการคำนวณความมั่นคงบนเชื่อมโยงข้อมูลเชิงลึกในโซน FHE โดย Fhenix ไม่ใช้ zkFHE แต่ใช้ Optimistic Rollup แทนที่จะใช้ออกมาสติก Rollup มันใช้ Zama’s FHE เพื่อให้การความมั่นคงบนเชื่อมโยงข้อมูลผ่าน fhEVM และเน้น TFHE (Threshold FHE)

ในวันที่ 2 เมษายน 2024 Fhenix ประกาศความร่วมมือกับ EigenLayer เพื่อพัฒนา FHE coprocessors ซึ่งมีเป้าหมายที่จะนำ FHE เข้าสู่สมาร์ทคอนแทรคต. “FHE coprocessor” ทำงานโดยการทำการคำนวณบนข้อมูลที่เข้ารหัสโดยไม่ต้องถอดรหัสข้อมูลก่อน หลีกเลี่ยงความต้องการในการจัดการงานคำนวณ FHE บน Ethereum, L2, หรือ L3 layers. แทนที่จะดำเนินงานที่ด้านนี้โดยการประมวลผ่านตัวประมวลผลที่กำหนดไว้. FHE coprocessors จะได้รับความปกป้องโดย FHE Rollup ของ Fhenix และกลไกการจำลองของ EigenLayer. ตามแผนงาน Fhenix มีแผนที่จะเปิดตัว mainnet ในมกราคม 2025.

ในเดือนกันยายน 2023 บริษัท Fhenix ได้สำเร็จระดับเมล็ดพันธุ์ 7 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถูกนำโดย Sora Ventures, Multicoin Capital, และ Collider Ventures, พร้อมทั้งมีการเข้าร่วมจาก Node Capital, Bankless, HackVC, TaneLabs, Metaplanet, และผู้อื่น ๆ ในช่วงต้นปี 2024 บริษัท Fhenix จะปล่อยทดสอบเครือข่ายสาธารณะและสนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชันในระบบนี้

Inco

Inco Network เป็นเลเยอร์การปกป้องความเป็นส่วนตัวสําหรับวัตถุประสงค์ทั่วไปของ Web3 และบล็อกเชน L1 การประมวลผลที่เป็นความลับแบบแยกส่วน ซึ่งให้การปกป้องความเป็นส่วนตัวสําหรับแอปพลิเคชันแบบ on-chain มันรวม Ethereum EVM กับ FHE และได้รับการป้องกันสําหรับ Ethereum ผ่าน EigenLayer ทําให้โปรแกรมสามารถทํางานและประมวลผลข้อมูลที่เข้ารหัสโดยไม่ต้องถอดรหัสโดยไม่ต้องใช้ TEEs วงจรที่เก็บข้อมูลนอกเครือข่ายหรือโปรเซสเซอร์ร่วม ทุกอย่างเกิดขึ้นบนห่วงโซ่ด้วยการสุ่มพื้นเมือง Inco ยังเปิดตัว Gentry testnet เพื่อจัดการกับความท้าทายในการปกป้องความเป็นส่วนตัวของ Web3 นอกจากนี้ Inco ยังสามารถรองรับแอปพลิเคชันเช่นการเล่นเกม DeFi (รวมถึงกลุ่มมืดการให้กู้ยืมส่วนตัวและการประมูลแบบตาบอด) โซลูชันระดับองค์กร (เช่น stablecoins ที่เป็นความลับ RWA ส่วนตัวและการลงคะแนนส่วนตัว) และอื่น ๆ

ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2567 Inco เข้าคู่ค้ากับโครงการบริการการยืนยันของ EigenLayer ชื่อ Ethos ซึ่งทำให้ไม่เพียงแค่แบ่งปันความมั่นคงทางเศรษฐกิจของ Ethereum ได้ แต่ยังอนุญาตให้ DApps บน Ethereum ใช้การคำนวณของ Inco ที่มีความเป็นส่วนตัว Inco ยังร่วมมือกับโปรโตคอลการข้ามออกแบบ Hyperlane เพื่อขยายการเก็บข้อมูลและการคำนวณที่เป็นส่วนตัวไปสู่ระบบนิเวศบล็อกเชนแบบโมดูล

ในเชิงพัฒนาโปรโตคอล Inco ได้เปิดตัว k ความร่วมมือกับ Zama และ fhEVM ของมันยังมีการนำ TFHE ของ Zama มาใช้ fhEVM ของ Inco เข้ากันได้กับชุดเครื่องมือ Ethereum (เช่น Remix, Hardhat, และ Metamask) และภาษา Solidity ที่เป็นที่นิยม ที่ปรึกษาอื่น ๆ ของ Inco รวมถึง Sandeep Nailwal ผู้ร่วมก่อตั้ง Polygon และ Anand Iyer ผู้ร่วมก่อตั้งและนักลงทุนของ Lightspeed Ventures

ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 Inco Network ได้ทำการระดมทุนรอบเมล็ดพันธุ์มูลค่า 4.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถูกนำโดย 1kx พร้อมกับการเข้าร่วมจาก Circle Ventures, Robot Ventures, Portal VC, Alliance DAO, Big Brain Holdings, Symbolic, GSR, Polygon Ventures, Daedalus, Matter Labs, และ Fenbushi.

Octra

Octraเป็นเครือข่ายบล็อกเชนที่รองรับสภาพแวดล้อมการดำเนินการที่แยกจากกันโดยใช้ Fully Homomorphic Encryption (FHE) พวกเขาได้แนะนำรูปแบบของ FHE ที่ใหม่ที่เรียกว่า HFHE ซึ่งดำเนินการบน Hypergraphs ตามเอกสารประกาศทางการ HFHE เข้ากันได้กับโปรเจคใดๆ และสามารถดำเนินการอิสระได้ โค้ดเบสของ Octra ส่วนใหญ่ถูกพัฒนาขึ้นโดยใช้ภาษาเช่น OCaml AST ReasonML (สำหรับสัญญาอัจฉริยะและแอปพลิเคชันที่จะติดต่อกับเครือข่ายบล็อกเชน Octra) และ C++ การเข้าถึงนี้เป็นใหม่พอสมควร โดยมีการอภิปรายน้อยในวงการวิชาการ ความปลอดภัยของ solutio นี้ยังไม่ได้รับการยืนยันและต้องการการตรวจสอบ

Octra นำเสนอกลไกรตอนใหม่ที่ใช้กลไกรยืนยันบนการเรียนรู้ของเครื่อง โดยใช้ผู้เข้าร่วมโหนดและเครื่องจักรเวกเตอร์สำหรับการจัดการโหลด มันเลือกเส้นทางการยืนยันโดยขึ้นอยู่กับลำดับของประสบการณ์ที่ได้รับการยืนยันมาก่อน ตรวจสอบผลลัพธ์ และให้ความมั่นใจว่าไม่มีการรบกวนในกระบวนการ

ไคลเอ็นต์เบาของอ็อคตร้าช่วยให้โหนดสามารถทำงานบนอุปกรณ์เช่น Raspberry Pis, คอมพิวเตอร์ส่วนตัว, เซิร์ฟเวอร์, เซิร์ฟเวอร์คลาวด์ หรือ สมาร์ทโฟน ปัจจุบันกระบวนการตรวจสอบของเครือข่ายอ็อคตร้าอยู่ในช่วงทดสอบและการแก้จุดบกพร่อง และเทสเน็ตยังไม่เปิดให้บริการ

Shibarium

Shibarium เป็นโซลูชัน Layer2 ของ Shiba Inu ซึ่งปัจจุบันกําลังพัฒนาบล็อกเชน Layer3 ใหม่โดยใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสแบบ homomorphic เต็มรูปแบบของ Zama ชื่อของบล็อกเชนนี้ยังไม่ได้รับการเปิดเผย โทเค็น TREAT ทําหน้าที่เป็น "โทเค็นยูทิลิตี้และการกํากับดูแล" สําหรับบล็อกเชน Layer3 ที่เน้นความเป็นส่วนตัวใหม่นี้ มันจะถูกสร้างขึ้นบน Shibarium บล็อกเชน Ethereum Layer2 และได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสําหรับแอปพลิเคชันบล็อกเชนและ AI รวมถึงสัญญาอัจฉริยะและการประมวลผลที่เป็นความลับในสาขาการเรียนรู้ของเครื่อง

TREAT จะเป็นโทเค็นที่ไม่มีความมั่นคงสุดท้ายในระบบ Shiba Inu ซึ่งในภายหลังจะนำเสนอโทเค็นใหม่ที่เรียกว่า Shi โทเค็นที่มีอยู่ในระบบประกอบด้วย SHIB (เหรียญมีม), BONE (โทเค็นการปกครองของ Shibarium) และ LEASH (โทเค็นที่มีจำนวนคงที่ถือโดยผู้ใช้ Shiba Inu ที่เป็นลoyal ซึ่งจะให้ผลตอบแทน BONE)

ในเดือนเมษายน 2024 Shiba Inu ได้ระดมทุน 12 ล้านดอลลาร์โดยการขายตั๊กอนที่ยังไม่เปิดเผย TREAT ให้กับนักลงทุนที่ไม่ใช่พลเสียหาย. รอบทุนระดมทุนเห็นการเข้าร่วมจาก Polygon Ventures, Foresight Ventures, Mechanism Capital, Big Brain Holdings, Shima Capital, Animoca Brands, Morningstar Ventures, Woodstock Fund, DWF Ventures, Stake Capital, และ Comma 3 Ventures รวมถึงผู้อื่นๆ

เครือข่ายลับ

เครือข่ายลับเป็นเลเยอร์การคำนวณความเป็นส่วนตัวของเว็บ 3 ของบล็อกเชนสาธารณะที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว ในกระแส Secret 2.0 ทีมกำลังพัฒนาเครือข่าย TFHE Layer1 ที่ขึ้นอยู่กับ Fhenix และกำลังทำงานในการพัฒนาระบบ rollups ที่รักษาความเป็นส่วนตัวเป็นการเสริมเติม

DePIN

Arcium (ก่อนหน้านี้เป็น Elusiv)

Arciumเป็นเครือข่าย DePIN บน Solana ที่ออกแบบมาสำหรับการคำนวณความลับแบบขนาน ก่อตั้งโดย Yannik Schrade, Julian Deschler, Nicolas Schapeler และ Lukas Steiner, Arcium ได้วิวัฒนาการมาจากโปรโตคอลความเป็นส่วนตัวที่เป็นเคล็ดลับ Elusiv และได้เปลี่ยนแบรนด์เป็น Arcium เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2024

Arcium รองรับ Solana ในที่สุดโดยให้นักพัฒนาและแอปพลิเคชันในด้าน DeFi, DePIN, AI, และด้านอื่น ๆ สามารถเข้าถึงความสามารถในการคำนวณที่เชื่อถือได้ ที่สามารถยืนยันและมีประสิทธิภาพสูง โดยไม่ต้องไว้วางใจ นั้นไม่ใช่บล็อกเชนแยกตัวเอง แต่ต้องการการเข้าถึงข้อมูลที่สามารถใช้ได้ของบล็อกเชนใต้หลัก (DA) และชั้นความเห็นร่วม นี้ช่วยให้นักพัฒนาสามารถใช้สมาร์ทคอนแทรคที่มีความลับได้ทั่วบล็อกเชนต่าง ๆ และยังมีความสามารถในการกำหนดรูปแบบการเชื่อมั่นของชั้นบล็อกเชนตามความต้องการของพวกเขา

เครือข่าย Arcium ประกอบด้วยสองส่วนหลัก: เครือข่าย Arx และสภาพแวดล้อมการดำเนินการหลายฝ่าย (MXE) MXE รวมเทคนิคเช่น MPC, FHE, และ ZKP เพื่อบรรลุการคำนวณที่ปลอดภัยเหนือข้อมูลที่เข้ารหัส เครือข่าย Arx เป็นเครือข่ายโหนดที่มีลักษณะกระจายที่ใครก็สามารถมีส่วนร่วมโดยการเรียกใช้โหนด Arcium ได้เปิดตัวเครือข่ายทดสอบส่วนตัวที่แสดงส่วนที่ผลักดันและเชิญชวนนักพัฒนารายบุคคลหรือสมาชิกของทีม 100 คนให้มีส่วนร่วมในการทดสอบ ผู้เข้าร่วมที่ถูกเลือกได้รับอำนาจให้เรียกใช้โหนด MPC หรือโหนดชั้นกลางหรือใช้ MXE เพื่อสร้างแอปพลิเคชันบนเชน

ในเดือนพฤศจิกายน 2022 Elusiv สำเร็จรอบทุนเริ่มต้น 3.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมี LongHash Ventures และ State Stripities Ventures เป็นผู้นำ โดยมีการเข้าร่วมจาก Jump Crypto, NGC Ventures, Big Brain Holdings, Anagram, Cogitent Ventures, Equilibrium, Marin Ventures, Token Ventures, Moonrock Capital, Monke Ventures, Solanafm, และผู้อื่นๆ

ในเดือนพฤษภาคม 2024 Arcium ได้รับการระดมทุนยุทธศาสตร์มูลค่า 5.5 ล้านเหรียญดอลลาร์ฯ ซึ่งมี Greenfield Capital เป็นผู้นำ โดยมีการเข้าร่วมจาก Coinbase Ventures Heartcore Capital Longhash VC L2 Iterative Ventures Stake Facilities Smape Capital Everstake ผู้ร่วมก่อตั้ง Solana Anatoly Yakovenko Monad Keone Han และผู้อื่น ๆ มูลค่าเงินทุนรวมของ Arcium ตอนนี้ได้ถึง 9 ล้านเหรียญดอลลาร์ฯ ทุนระยะนี้จะถูกใช้เพื่อให้นักพัฒนาและแอปพลิเคชันบล็อกเชนได้รับกรอบการคำนวณที่มีการกาหนดความเชื่อถือลดลงและสามารถปรับแต่งได้

Privasea

Privasea เป็นโครงการ DePIN + AI ที่รวม Fully Homomorphic Encryption Machine Learning (FHEML) เข้ากับเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบกระจาย นอกจากนี้ยังแนะนํา DApp "ImHuman" โดยใช้เทคโนโลยี FHE เพื่อให้แน่ใจว่าการดําเนินการที่ปลอดภัยของ "Proof of Humanity" (PoH) โดยเฉพาะเมื่อสร้างบัญชี ImHuman หากผู้ใช้ลืมรหัสผ่านจะไม่สามารถกู้คืนได้ ImHuman สแกนเวกเตอร์ใบหน้าโดยใช้กล้องหน้าเข้ารหัสโดยตรงบนอุปกรณ์มือถือโดยไม่ต้องส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ใด ๆ และ Privasea ไม่สามารถเข้าถึงได้ เวกเตอร์ใบหน้าที่เข้ารหัสจะถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ Privasea ซึ่งมีการสร้าง NFT ส่วนตัวทําให้กระบวนการพิสูจน์มนุษยชาติเสร็จสมบูรณ์ ผู้ใช้ที่กรอก PoH จะได้รับ airdrops พิเศษ ปัจจุบัน ImHuman มีให้บริการบน Google Play เท่านั้นและจะเปิดตัวบน App Store ในไม่ช้า

Privasea ยังสร้างโครงสร้าง AI DePIN Privasea AI Network ซึ่ง testnet ออนไลน์อยู่แล้ว โดยการสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่กระจายอย่างแบ่งแยก testnet จะให้ทรัพยากรการคำนวณแบบกระจายที่มีมากพอสำหรับงาน FHE AI ลดความเสี่ยงของการประมวลผลข้อมูลแบบจำกัดของ Privasea โซลูชัน FHE ได้รับการสนับสนุนจาก Zama สำหรับงานภาคภูมิศาสตร์ที่เฉพาะเจาะจง

ในเดือนมีนาคม 2024 Privasea ได้สำเร็จรอบการจัดทุนเริ่มต้นในจำนวน 5 ล้านดอลลาร์ ด้วยการร่วมลงทุนจาก Binance Labs, Gate Labs, MH Ventures, K300, QB Ventures, และ CryptoTimes ในเดือนเมษายน Privasea ได้รับการรับรองการเงินกลยุทธ์รอบใหม่ ด้วยการร่วมลงทุนจาก OKX Ventures, Laser Digital ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Nomura Securities Group, และ Tanelabs, ซึ่งเป็นภูมิใจในการสนับสนุนการเจริญของ SoftBank

โปรโตคอลคลัสเตอร์

โปรโตคอลคลัสเตอร์เป็นโปรโตคอลที่ใช้ DePIN ในการพิสูจน์การคำนวณเพื่อสร้าง GitHub แบบกระจายสำหรับโมเดล AI มันใช้ Fully Homomorphic Encryption (FHE) เพื่อให้การรางวัลที่ปลอดภัยและสม่ำเสมอให้กับผู้ให้บริการ GPU ซึ่งสนับสนุนบุคคลและกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลางทั่วโลก

ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2567 Cluster Protocol ได้ทำการระดมทุนรอบการลงทุนเริ่มต้นเสร็จสิ้นด้วยการลงทุนจาก Pivot Ventures และ Genesis Capital จำนวนเงินที่ระดมทุนได้ไม่ได้เปิดเผย อีกทั้ง Cluster Protocol ยังจะเข้าร่วมโปรแกรมสร้างสรรค์และส่งเสริมธุรกิจของ Pivot

Mind Network

Mind Network เป็นเลเยอร์การปักหลัก FHE สําหรับ DePIN และ AI ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย Zama โดยมีเป้าหมายเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ของ "HTTPZ" (อินเทอร์เน็ตที่เข้ารหัสแบบ end-to-end) ผลิตภัณฑ์ของ บริษัท ประกอบด้วยโซลูชันการปักหลัก FHE MindLayer สําหรับเครือข่าย AI และ DePIN โปรโตคอลที่อยู่ที่มองไม่เห็นที่ได้รับอนุญาตจาก FHE MindSAP และ FHE DataLake MindLake ที่สร้างขึ้นบนเครือข่ายผู้ตรวจสอบ FHE ผ่าน MindLayer ใน MindLayer ผู้ใช้สามารถเดิมพันโทเค็น BTC และ ETH LST อีกครั้งไปยัง Mind Network โดยแนะนําผู้ตรวจสอบที่ปรับปรุง FHE เพื่อให้แน่ใจว่ามีการเข้ารหัสแบบ end-to-end สําหรับกระบวนการตรวจสอบและการคํานวณของเครือข่าย AI และ DePIN นอกจากนี้ยังแนะนํากลไกฉันทามติการพิสูจน์อัจฉริยะ (PoI) ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสําหรับงานแมชชีนเลิร์นนิ่ง AI เพื่อให้มั่นใจถึงการกระจายที่ยุติธรรมและปลอดภัยระหว่างผู้ตรวจสอบ FHE การคํานวณ FHE ยังสามารถเร่งผ่านฮาร์ดแวร์ MindLake เป็นชุดรวบรวมข้อมูลที่ออกแบบมาสําหรับการประมวลผลข้อมูลแบบ on-chain ที่เข้ารหัส

นอกจากนี้ Mind Network กำลังเปิดตัวโซ่ rollup พร้อมกับ AltLayer, EigenDA, และ Arbitrum Orbit Mind Network testnet ได้เปิดให้บริการแล้ว

ในเดือนมิถุนายน 2023 Mind Network ดำเนินการรอบทุนเริ่มต้นมูลค่า 2.5 ล้านดอลลาร์สหรับ ด้วยการเข้าร่วมจาก Binance Labs, Comma3 Ventures, SevenX Ventures, HashKey Capital, Big Brain Holdings, Arweave SCP Ventures, Mandala Capital รวมถึงผู้อื่น ๆ ในเดือนเดียวกัน Mind Network ได้รับการเลือกเข้าร่วมโปรแกรมภูมิคุ้มกันของ Binance Labs ฤดูกาลที่ห้าและได้รับการเลือกเข้าร่วมโปรแกรม Chainlink BUILD รับทุนจากทุนกุศลของ Ethereum Foundation Fellowship Grant

เกม

zkHoldem

zkHoldemเป็นเกม Texas Hold’em ออนไลน์ที่รองรับโดย ZKP และ FHE มีให้บริการใน Manta Network และจะสามารถใช้งานได้บน Arbitrum ในเร็ว ๆ นี้

Framed!

Framed!เป็นเกม "มาเฟีย" ที่ทำงานบนเชื่อมโยงทั้งหมดที่ได้รับการสนับสนุนจากเครือข่าย Inco และ fhEVM ได้รับการเลือกเป็นผลงานสุดท้ายของ ETHGlobal New York ในเดือนกันยายน 2023 อย่างไรก็ตามทวิตเตอร์ทางการของ "Framed!" ยังไม่ได้รับการอัปเดตตั้งแต่เดือนธันวาคมของปีที่แล้ว แนะนำว่าอาจจะไม่มีการดำเนินการอีกต่อไป

DeFi

Penumbra

Penumbraเป็นเครือข่าย PoS ระบบ cross-chain แบบส่วนตัวที่สมบูรณ์แบบและสถานการณ์การแลกเปลี่ยน (DEX) ภายในนิเวศ Cosmos และ Penumbra ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 ดำเนินการด้วยสระป้องกันที่อนุญาตให้มีการโอนเงินที่ป้องกัน การจำนจัดการทุนและการแลกเปลี่ยน มันใช้การเข้ารหัสฟูลลี่โฮโมอร์ฟิกเอ็นคริปชัน (TFHE) เพื่อดำเนินการสกุลเงินที่ป้องกันระหว่างฝ่ายซึ่งจะดำเนินการเป็นรายการแบทช์ Penumbra มีเป้าหมายที่จะรวมสินทรัลทั้งหมดที่ซื้อขายภายในนิเวศ Cosmos เข้าสู่สระป้องกันเดียว

ในเดือนพฤศจิกายน 2021 Penumbra ได้ดำเนินการรอบทุนเมล็ดพันธุ์มูลค่า 4.75 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมี Dragonfly Capital เป็นผู้นำ โดยมีการเข้าร่วมจาก Interchain Foundation, Lemniscap, Robot Ventures, Volt Capital, Figment, Strangelove Ventures, Informal Systems, และ ZKValidator

AI

BasedAI

BasedAIเป็นโครงการ AI ที่ไม่centralized โดยใช้ ZK-LLM (Zero-Knowledge Language Model) เช่นเดียวกับ Bittsesor มันสามารถรวม Fully Homomorphic Encryption (FHE) กับ LLM ใดๆที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายของมัน Cerberus Squeezing principle ของ BaseAI สำหรับการบีบอัดอย่างลึกสามารถเสริมความสามารถในการดำเนินการของ LLMs โดยการลดภาระการคำนวณและการให้ความสำคัญให้ข้อมูลที่ยังคงเป็นไล่รหัสขณะดำเนินการและการส่งข้อมูล ปัจจุบันทดสอบเครือข่าย Prometheus ของ BasedAI เริ่มจะเสร็จสิ้นแล้วกับ Cyan testnet ที่กำลังจะเริ่ม

BaseAI ได้เปิดตัวโทเค็นของตัวเอง แต่ได้ระบุไว้โดยชัดแจ้งว่าจะไม่ดำเนินการแอร์ดรอปใด ๆ

Polyverse AI

Polyverse AIเป็นเครื่องยนต์ข้อมูล AI ระดับโลกที่รองรับความเป็นส่วนตัว Web3 และ Fully Homomorphic Encryption (FHE) มีเป้าหมายที่จะเป็น “Google ที่มีการกระจาย” และแสดงถึงประเด็นความเป็นส่วนตัวของข้อมูล AI ผ่าน FHE และ Zero-Knowledge Proofs (ZKP) ชั้นข้อมูล AI ของมันมีการสนับสนุนสำหรับ Generative AI, DeAI, DeFi, DePIN, Metaverse, LLM, และแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ

Sight AI

Sight AIเป็นเครือข่ายกลุ่มประมวลผล AI แบบกระจายที่ใช้ Fully Homomorphic Encryption (FHE) เพื่อให้การประมวลผลที่ปลอดภัย ส่วนตัว และร่วมมือสำหรับการประมวลผลเชิงนวัตกรรมในอนาคต เขาแนะนำ vFHEML (Verifiable FHE Machine Learning) และเร่งความสามารถในการสร้างพิสูจน์โดยใช้ SNARGs (Succinct Non-interactive Arguments of Knowledge) บนวงแหวน โดยพิจารณาถึงความท้าทายในการผสม FHE กับ ZK-SNARKs Sight AI เลือกที่จะไม่ใช้ ZK-SNARKs สำหรับการทวิต่าข้อมูล แต่รวม SNARGs กับ FHE เพื่อสร้าง vFHE ซึ่งลดความต้องการในการคำนวณและเร่งความสามารถในการสร้างพิสูจน์

อ้างอิง:

Vitalik Buterin,การสำรวจการเข้ารหัสแบบ Fully Homomorphic Encryption, 20 กรกฎาคม 2020.

Mustafa Hourani,@mustafa.hourani/explaining-the-recent-rise-of-fully-homomorphic-encryption-in-the-blockchain-industry-c7081fa05458"> อธิบายการเพิ่มขึ้นล่าสุดของการเข้ารหัสอย่างเต็มที่ในอุตสาหกรรมบล็อกเชน 10 ต.ค. 2023.

Taiko Labs,บทนำสู่ FHE: FHE คืออะไร การทำงานของ FHE คืออะไร มันเชื่อมโยงกับ ZK และ MPC อย่างไร กรณีการใช้ FHE ในและนอกเหนือจากบล็อกเชนมีอะไรบ้าง ฯลฯ, Nov 24, 2023.

Haotian: “เกิน ZKP ทำอย่างไร FHE ทำให้บล็อกเชนมีพลัง?”, พฤศจิกายน 2023.

Jeffrey Hu, Arnav Pagidyala,ความท้าทายและวิธีการแก้ปัญหาของ Onchain FHE: ปลดล็อคแฮะกรัลฮอลี, ยอดเงินสำรอง, หุ้นโครงการ 5 ธันวาคม 2023.

Caleb Shack,การเข้ารหัสโฮโมมอร์ฟิกที่มีข้อบกพร่อง, บิ๊กเบรน โฮลดิ้งส์, 18 เมษายน 2024.

Haotian: “ขนาดของจินตนาการของการเข้ารหัสโฮโมมอร์ฟิกเต็ดแบบเต็มรูปแบบ (FHE) มีขนาดเท่าไร?”, พฤษภาคม 2024.

FHE-Rollups: Scaling Confidential Smart Contracts on Ethereum and Beyond - Whitepaper

คำแถลง:

1. บทความนี้ถูกพิมพ์ซ้ำจาก [ foresightnews] ชื่อเดิมคือภาพรวมการติดตาม FHE จุดสิ้นสุดของข้อมูลความเป็นส่วนตัว Web3 จะมาถึงเมื่อใด "" ลิขสิทธิ์เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ [Peng Sun], if you have any objection to the reprint, please contact Gate Learn Team, ทีมจะดำเนินการโดยเร็วที่สุดตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง

2. คำประกาศ: มุมมองและความคิดเห็นที่แสดงในบทความนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น และไม่ใช่การให้คำแนะนำทางการลงทุนใด ๆ

3. เวอร์ชันภาษาอื่น ๆ ของบทความถูกแปลโดยทีม Gate Learn ซึ่งไม่ได้กล่าวถึงGate.io, บทความที่ถูกแปลอาจไม่สามารถทำสำเนา แจกจ่าย หรือลอกเลียน