Repost ชื่อเรื่องเดิม: IOSG Weekly Brief | ทำไมเราลงทุนใน ether.fi? แนวโน้มการพัฒนาที่ยังจะเกิดขึ้นของ LRT จะเป็นอย่างไร? #217

ส่วนที่ 1 ความคิดทรงจำ ｜ เราลงทุนใน ether.fi ทำไม? แนวโน้มการพัฒนาอนาคตของ LRT คืออะไร?

โลจิกพื้นฐานของ LRT

LRT เป็นชั้นสินทรัพย์ใหม่ที่ได้มาจากตลาดแบบหลายด้านที่รอบ EigenLayer จุดประสงค์ของ LRT และ LST คือ "เปิดเผย Likuidity" แต่เนื่องจากความหลากหลายของสินทรัพย์ใน LRT และลักษณะที่เปลี่ยนไปอย่างไดนามิก จึงทำให้ LRT ซับซ้อนกว่า LST

พิจารณา ETH หาก Ethereum ที่ stake ภายใต้ LST ถือเป็นกองทุนเงินตรา แล้ว LRT ที่เป็นผู้จัดการทรัพย์สิน สามารถถือเป็นกองทุนของกองทุนสำหรับ AVS การเปรียบเทียบ LST และ LRT เป็นวิธีที่จะเข้าใจตรรกะใน LRT ได้อย่างรวดเร็ว

แหล่งที่มา: IOSG Ventures

• 1. พอร์ต​โฟ​ลิโอ

พอร์ตการลงทุนของ LST มีเพียง Ethereum staking แต่พอร์ตการลงทุนของ LRT มีความหลากหลายและกองทุนสามารถลงทุนใน AVS ที่แตกต่างกันเพื่อให้พวกเขามีความมั่นคงทางเศรษฐกิจโดยธรรมชาติมีระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน โปรโตคอล LRT ที่แตกต่างกันมีวิธีการจัดการกองทุนและการตั้งค่าความเสี่ยงที่แตกต่างกัน LST ได้รับการจัดการอย่างอดทนในระดับการจัดการกองทุนและ LRT ได้รับการจัดการอย่างแข็งขัน LRT อาจให้กลยุทธ์การจัดการที่แตกต่างกันซึ่งสอดคล้องกับระดับที่แตกต่างกันของ AVS (เช่น EigenDA เมื่อเทียบกับ AVS ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่) เพื่อปรับให้เข้ากับการตั้งค่าผลตอบแทน / ความเสี่ยงของผู้ใช้

• 1. ผลผลิต แหล่งที่มา และองค์ประกอบ

ผลตอบแทนของ LST และ LRT และแหล่งที่มาและส่วนประกอบของผลตอบแทนนั้นแตกต่างกัน:

• ผลตอบแทนของ LST ณ ขณะนี้เป็นค่าคงที่ที่ประมาณ 4.9% มาจากรายได้ร่วมของเลเยอร์ความเห็นของ Ethereum และเลเยอร์การดำเนินการ ประกอบด้วย ETH
• ผลตอบแทนของ LRT ยังไม่แน่นอนในขณะนี้ แต่โดยพื้นฐานมาจากค่าธรรมเนียมที่ AVS แต่ละตัวจ่าย และอาจประกอบด้วย AVS tokens, ETH, USDC หรือผสมของทั้งสามสกุลเงินดังกล่าว ตามข้อมูลที่เราได้รับจากบางตลาดสลับ AVS บางส่วนจะสงวนเปอร์เซ็นต์บางประการของการจำหน่ายโทเคนทั้งหมดเพื่อเป็นสิทธิและงบประมาณด้านความปลอดภัย หาก AVS ได้เริ่มเปิดใช้งานก่อนการเปิดจำหน่ายโทเคน ก็อาจจ่าย ETH หรือ USDC ตามสถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจง (ดังนั้น การ Restaking สามารถเข้าใจได้จริงๆว่าเป็นกระบวนการการวางเดิม ETH เพื่อขุดโทเคนของโครงการบุคคลที่สาม)

เนื่องจากเป็นโทเค็นที่ใช้ AVS เป็นพื้นฐาน ความเสี่ยงจากการสะเทือนของโทเค็นจะมากกว่า ETH และ APR จะเปลี่ยนแปลงตามอย่างเหมาะสม AVS อาจมีสถานการณ์การเข้าและออกของการหมุนโดยที่เกิดขึ้น ทั้งหมดนี้จะนำปัจจัยที่ไม่แน่นอนเข้ามาสู่ผลตอบแทนของ LRT

• 1. ความเสี่ยงในการลงโทษ

การจ่ายเงินค่าปรับของ Ethereum staking มี 2 ประเภท: Inactivity Leaking และ Slashing, เช่น การพลาดข้อเสนอบล็อก และการโหวตคู่ กฎกติกามีความแน่นอนมาก หากมีการดำเนินการโดยผู้ให้บริการโหนดมืออาชีพ ความถูกต้องสามารถถึงประมาณ 98.5%

อย่างไรก็ตามโปรโตคอล LRT จําเป็นต้องเชื่อว่าการเข้ารหัสซอฟต์แวร์ AVS นั้นปราศจากข้อผิดพลาดและไม่มีการคัดค้านกฎการลงโทษเพื่อหลีกเลี่ยงการลงโทษที่ไม่คาดคิด เนื่องจากมี AVS หลายประเภทและส่วนใหญ่เป็นโครงการแรก ๆ สิ่งนี้จึงไม่แน่นอน นอกจากนี้ AVS อาจมีการเปลี่ยนแปลงกฎเมื่อธุรกิจพัฒนาขึ้นเช่นการทําซ้ําคุณสมบัติเพิ่มเติมเป็นต้น นอกจากนี้ในระดับการบริหารความเสี่ยงจําเป็นต้องพิจารณาความสามารถในการอัพเกรดของสัญญา AVS Slasher ว่าเงื่อนไขการลงโทษมีวัตถุประสงค์และตรวจสอบได้หรือไม่เป็นต้น เนื่องจาก LRT ทําหน้าที่เป็นตัวแทนในการจัดการทรัพย์สินของผู้ใช้ LRT จึงจําเป็นต้องพิจารณาประเด็นเหล่านี้อย่างครอบคลุมและเลือกพันธมิตรอย่างรอบคอบ

แน่นอน EigenLayer สนับสนุน AVS ให้ดำเนินการตรวจสอบอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงรหัสของ AVS ความเสี่ยงในการตัดสิทธิ์ และตรรกะที่มีปฏิสัมพันธ์กับ EigenLayer EigenLayer ยังมีคณะกรรมาธิการลายเซ็นหลายรายการเพื่อดำเนินการตรวจสอบสุดท้ายและควบคุมเหตุการณ์โทษ

การเติบโตอย่างรวดเร็วของ LRT ในระยะสั้น

แหล่งที่มา: EigenLayer

EigenLayer ได้ใช้แนวทางการเปิดแบบค่อยเป็นค่อยไปสําหรับการ LST restaking ในขณะที่ไม่มีข้อ จํากัด สําหรับ Native Restaging ข้อ จํากัด เกี่ยวกับ LST อาจถูกมองว่าเป็นรูปแบบของกลยุทธ์การตลาดที่ขาดแคลน แต่ที่สําคัญกว่านั้นคือการส่งเสริมการเติบโตของ Native Restaging เนื่องจากเมื่อ LST ถูก จํากัด ผู้ใช้ที่ต้องการรับใหม่สามารถหันไปใช้โปรโตคอล LRT ของบุคคลที่สามที่ให้ Native Restaging ซึ่งส่งเสริมการพัฒนาโปรโตคอล LRT อย่างมาก ปัจจุบัน ETH ที่ไหลเข้าสู่ EigenLayer ผ่าน LRT คิดเป็นประมาณ 55% ของ TVL ทั้งหมดใน EigenLayer

นอกจากนี้ประเด็นโดยนัยคือ Native Restaking สามารถให้ Ethereum Inclusion Trust ซึ่งจัดหาและสนับสนุนโดย EigenLayer เป็นรูปแบบความไว้วางใจที่สามนอกเหนือจาก Economic Trust และ Decentralization Trust นั่นคือผู้ตรวจสอบ Ethereum นอกเหนือจากการให้คํามั่นสัญญากับ Ethereum ผ่านการปักหลักแล้วยังสามารถเรียกใช้ AVS และให้คํามั่นสัญญากับ AVS ได้อีกด้วย ภาระผูกพันเหล่านี้ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับ MEV กรณีการใช้งานหนึ่งคือ "การประมูลพื้นที่บล็อกในอนาคต" ตัวอย่างเช่น ออราเคิลอาจต้องให้บริการฟีดในเวลาที่กําหนด หรือ L2 จําเป็นต้องเผยแพร่ข้อมูลไปยัง Ethereum ทุกสองสามนาที ฯลฯ พวกเขาสามารถจ่ายค่าธรรมเนียมผู้เสนอเพื่อจองพื้นที่บล็อกในอนาคต

ภูมิทัศน์การแข่งขันของ LRT

เพื่อทำให้ Likvid ที่ได้รับเสรี มีประโยชน์ การผสาน DeFi เป็นจุดสำคัญในการแข่งขันระหว่างโปรโตคอล LRT

ตามที่กล่าวถึงข้างต้น ในทฤษฎี AVS ต้องคำนวณความปลอดภัยทางเศรษฐกิจที่พวกเขาต้องการให้ไปสู่เกณฑ์ความปลอดภัยบางระดับ แต่ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ของ AVS ใช้ส่วนหนึ่งของจำนวน token ทั้งหมดสำหรับสิทธิส่งเสริม โดยที่ AVS ต่าง ๆ มีการหมุนเวียนและการเข้าและออก สิทธิส่งเสริมขึ้นอยู่กับราคาของ AVS token ดังนั้นความไม่แน่นอนของสินทรัพย์ LRT มีค่ามากกว่า LST (LST มี "อัตราดอกเบี้ยปลอดจริง" ที่มั่นคงและความคาดหวังที่ดีสำหรับราคาของ ETH) มันยากที่จะเป็น "สกุลเงินแข็ง" เช่น stETH ในการรวมและเข้ากันได้กับโปรโตคอล DeFi หลัก

หลังจากทั้งหมด เป็นโปรโตคอลการจำนองเงิน ความสะดวกสบายและ TVL ของ LRT จะเป็นเกณฑ์แรกที่โปรโตคอล DeFi ให้ความสนใจ ตามด้วยแบรนด์ ชุมชน ฯลฯ สะดวกสบายเป็นที่สะท้อนในรอบเวลาการออก โดยทั่วไปแล้ว ใช้เวลาเจ็ดวันในการออกจาก EigenPod และจากนั้นยังใช้เวลาเพิ่มเติมในการถอนจาก Ethereum staking โปรโตคอลที่มี TVL มากกว่าสามารถสร้าง Likuidity ที่ดีกว่า เช่น พูลสำรอง Likuidity ของ Etherfi สามารถให้การถอนที่รวดเร็ว (เช่น eETH -> ETH)

แต่ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงการรวมกันของ DeFi หลักโดยก่อนการเปิดตัว mainnet EigenLayer เนื่องจากมีสิ่งมากมายที่ไม่รู้

ในด้านอื่น ๆ Ether.fi ได้โพสต์ทวีตโทเค็นมีม $ETHFIWIFHAT บนทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการเพื่อสร้างความตึงเครียดในการเปิดตัวโทเคน ซึ่งทำให้คนคิดถึง Swell ใช้ Polygon CDK, EigenDA และ AltLayer เพื่อสร้าง zkEVM L2 และใช้ LRT rswETH เป็นโทเคน Gas ของตน เร็นโซ มุ่งเน้นการผสานเชือกหลายเชือกบน Arbitrum, Linea และ Blast เชื่อว่าโปรโตคอล LRT แต่ละอันจะเปิดตัวกลยุทธ์ที่แตกต่างกันในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น LST หรือ LRT ระดับความเป็นเอกลักษณ์สูงมาก แม้ว่า LRT จะมีพื้นที่เล่นมากกว่า LST แต่ถึงแม้ว่า LRT จะเปิดตัวไอเดียใหม่ในตลาด คู่แข่งก็ยังมีความสามารถในการลอกเลียน ฉันเชื่อว่าความเป็นโม้ทยังคงอยู่ที่การรวมและเสริมสร้าง TVL และ Likuidity Etherfi ในปัจจุบันมี TVL สูงสุดและ Likuidity ที่ดีที่สุด โดยสมมติว่าคาดหวังการแจกจ่ายโดยสารของโปรโตคอล LRT ทั้งหมดได้เป็นจริง Etherfi จะมีประโยชน์มากกว่าในการดึงเงินใหม่ (การนำส่งผู้ใช้สถาบันในเรื่องนี้ไม่สามารถทำนายได้ Etherfi มี 30% ของ TVL จากผู้ใช้สถาบัน)

หลังจากที่กิจกรรม airdrop สิ้นสุดลง รูปแบบของ LRT อาจจะถูกเรียงลำดับใหม่อย่างสมบูรณ์แบบ และการแข่งขันระหว่างโปรโตคอล LRT เพื่อผู้ใช้และเงินทุนจะกลายเป็นรุนแรงมากขึ้น (ตัวอย่างเช่น หลังจากที่ Etherfi แจก airdrop เสร็จสิ้นแล้ว บางส่วนของเงินทุนอาจไหลไปที่แพลตฟอร์มอื่นๆ ทันที) ก่อนที่ EigenLayer จะเปิดตัวเป็นเต็มรูปแบบและ AVS เริ่มให้ผลตอบแทน LRT จึงไม่มีความยึดมั่นต่อผู้ใช้ในขณะนี้

ความยั่งยืนของ LRT

ความยั่งยืนของ LRT นั้นจริงๆ แล้วสามารถมองเห็นได้ว่าเป็นความยั่งยืนของระบบ EigenLayer เพราะรายได้จาก Ethereum staking จะยังคงมีอยู่เสมอ แต่อาจจะไม่ใช่กรณีเช่นนี้สำหรับ AVS คำถามที่ถามบ่อยคือ: ใน TVL ปัจจุบันของ 11 พันล้าน อีกเท่าไร EigenLayer จะให้ผลตอบแทนที่เข้ากัน (เช่น 5% ต่อปี)? ฉันเชื่อว่ามีจุดดังต่อไปนี้:

• แม้ว่า EigenLayer ได้บรรลุ TVL ของ 11 พันล้านก่อนการเปิดตัวเต็มรูปแบบของ mainnet และแม้จะเกิน AAVE หลังจากการแจกจ่ายโปรโตคอลที่เกี่ยวข้องจบลง ก็ยังมีช่วงเวลาการแก้ไขทางเฉลี่ยที่แน่นอนสำหรับ TVL ของ EigenLayer โดยรวมอัตราผลตอบแทนที่ต้องพิจารณาในระยะสั้นไม่จำเป็นต้องมากนัก
• ประการที่สองโทเค็น AVS แต่ละตัวให้ผลตอบแทนความคงอยู่ความผันผวนที่แตกต่างกันและแต่ละ staker มีการตั้งค่าความเสี่ยงและการแสวงหาผลตอบแทนที่แตกต่างกัน ในระหว่างกระบวนการนี้จะมีการควบคุมแบบไดนามิกโดยธรรมชาติโดยตลาด (ETH มากขึ้นที่เดิมพันกับ AVS บางอย่างจะทําให้อัตราผลตอบแทนลดลงทําให้ผู้เดิมพันหันไปใช้ AVS อื่น ๆ หรือโปรโตคอลอื่น ๆ ) ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะคํานวณผลตอบแทนที่ต้องการโดยตรงโดยใช้เปอร์เซ็นต์ของ TVL ทั้งหมด
• จากมุมมองระยะกลางถึงระยะยาวพลังสําหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนของระบบนิเวศ EigenLayer ยังคงอยู่ในด้านอุปสงค์นั่นคือต้องมี AVS เพียงพอที่จะจ่ายเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและต้องมีความยั่งยืนซึ่งเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ที่ดีหรือไม่ดีของธุรกิจของ AVS เอง ปัจจุบันนอกเหนือจาก AltLayer และพันธมิตร AVS ยุคแรก ๆ อีก 12 รายแล้ว AVS หลายชุดยังได้ประกาศความร่วมมืออีกด้วย ฉันเข้าใจว่ามีหลายสิบ AVS รออยู่ในแถวสําหรับการรวม แน่นอนว่าสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับคุณภาพของโครงการ AVS ประสิทธิภาพของโทเค็นและการออกแบบกลไกจูงใจและขณะนี้ยังไม่มีวิธีใดที่จะให้ความเห็นที่ชัดเจน

สรุป

สุดท้ายที่เกี่ยวกับทิวทัศน์ในอนาคตของ LRT ฉันมีความคิดเห็นต่อไปนี้:

1. แม้จะมีการแข่งขันที่รุนแรง LRT ยังคงเป็นทิศทางการลงทุนที่ต้องการในตลาดหลัก EigenLayer ระบบนิเวศ เมื่อลงทุนใน AVS ใน EigenLayer ควรพิจารณาตรรกะการลงทุนของมิดเดิลแวร์นี้ ไม่แตกต่างกันเพราะใช้ EigenLayer เพื่อเริ่มเครือข่ายเพียงแต่ว่าวิธีการใช้งานผลิตภัณฑ์นั้นแตกต่างกัน ในอนาคตอาจมี AVS หลายสิบถึงหลายร้อยตัวที่สร้างขึ้นบน EigenLayer ดังนั้นแนวคิดของ AVS จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ทิศทางของผู้ให้บริการโหนดถูกครอบครองอย่างแน่นหนาโดย บริษัท ที่โตเต็มที่บางแห่ง แต่เห็นได้ชัดว่า LRT อยู่ใกล้กับผู้ใช้มากขึ้นเนื่องจากเลเยอร์นามธรรมระหว่างผู้ใช้และ EigenLayer โดยมีทั้งคุณลักษณะ Staking และ DeFi เนื่องจากผู้จัดจําหน่ายสินทรัพย์ในระบบนิเวศมีการพูดมากขึ้น ในรูปแบบระบบนิเวศ EigenLayer ทั้งหมดเรายังให้ความสนใจกับเครื่องมือสําหรับนักพัฒนาการจัดการคีย์ป้องกันการเฉือนการจัดการความเสี่ยงสินค้าสาธารณะและสาขาอื่น ๆ

2. ในปัจจุบันสัดส่วนของการเข้าร่วมใน EigenLayer restaking ผ่าน LRT และ LST อยู่ที่ประมาณ 55% และ 45% ตามลําดับ เราคาดว่าเมื่อ EigenLayer ค่อยๆพัฒนาข้อได้เปรียบของการปลดล็อกสภาพคล่อง LRT จะเกิดขึ้นและสัดส่วนนี้อาจสูงถึงประมาณ 70% ถึง 30% (สมมติว่าวาฬอนุรักษ์นิยมและสถาบันบางแห่งที่ถือ stETH ยังคงเลือกที่จะถือ stETH อย่างอดทน) แน่นอนว่าความเสี่ยงของ LRT ไม่สามารถละเลยได้ เนื่องจากโครงสร้างสินทรัพย์ซ้อนกันเราจึงต้องใส่ใจกับความเสี่ยงเชิงระบบเช่น depeg ภายใต้สภาวะตลาดที่รุนแรง ในระยะยาวเราหวังว่าจะได้เห็น AVS ในระบบนิเวศ EigenLayer เติบโตและให้ LRT มีโครงสร้างพื้นฐานและผลตอบแทนที่ค่อนข้างเสถียร

Part.2 IOSG | ความก้าวหน้าของโครงการหลังการลงทุน

DAO Maker ประกาศขยายตัวไปยังเครือข่าย Solana, มีโครงการ Solana IDO 4 โครงการที่กำลังจะมา

*Market Maker

DAO Maker ประกาศบนทวิตเตอร์ว่าจะขยายขอบเขตไปยังเครือข่าย Solana โดยจะเพิ่ม $2 ล้าน SOL ในกองสรรพสินค้าบน Raydium และจะเริ่มเปิดตัวโครงการ IDO 4 โครงการบน Solana และจะเพิ่ม YOURAI บน Raydium ในวันอังคารที่จะถึง

โคสมอส โคสเอคอสเคมิสติ้ง โครงการ Saga เพิ่มเป้าหมายการแจกจ่าย CryptoPunks และ BAYC holders

• โปรโตคอล

โปรโตคอลความยืดหยุ่นทางนิเวศ Saga ใน Cosmos ได้ประกาศในทวิตเตอร์ว่าได้เพิ่มเจ้าของ CryptoPunks และ BAYC เป็นเป้าหมายของการแจก SAGA tokens

Arbitrum วางแผนที่จะลงทุน 400 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อส่งเสริมเกมบล็อกเชน

*Layer2

มูลมการก่อตั้ง Arbitrum ได้ประกาศแผนการลงทุน 200 ล้าน ARB (ประมาณ 400 ล้าน USD) เป็นระยะเวลา 2 ปี เพื่อส่งเสริมโครงการเกมบนบล็อกเชนของตน ข้อเสนอใหม่นี้แสดงให้เห็นว่าส่วนใหญ่ของเงิน (160 ล้าน ARB) จะถูกใช้เพื่อสร้างสติมูลค่าและนักพัฒนาให้สร้างเกมใหม่บน Arbitrum ในขณะเดียวกัน 40 ล้าน ARB จะถูกใช้เพื่อสนับสนุนโครงการพื้นฐาน เช่นการสร้าง 'เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับเกมใน Arbitrum' มูลมการก่อตั้ง Arbitrum จะขอให้ DAO ของตนอนุมัติแผนนี้

Arbitrum: ArbOS “Atlas” ออนไลน์และ blobs กำลังออนไลน์

*Layer2

ArbOS “Atlas” ออนไลน์และ blobs มีผลผลัพธ์ในการลดต้นทุนการเปิดเผยข้อมูล การลด gas เพิ่มเติมของ Arbitrum One จะเริ่มใช้งานในวันที่ 18 มีนาคม

EigenLayer จะดำเนินการตามแผนหลายขั้นตอนเพื่อเริ่มเปิดตัว mainnet ในสัปดาห์ที่จะถึง

• การทำสัญญา

EigenLayer ได้เผยแพร่บทความเพื่อนำเสนอการเปิดตัวเครือข่ายหลัก โดยประกาศว่าจะใช้วิธีการหลายขั้นตอนในการเปิดตัวเครือข่ายหลักตั้งแต่ตอนนี้และต่อเนื่องในสัปดาห์หลังๆ ขั้นตอนสำคัญรวมถึง การย้ายทดสอบสุดท้ายของเครือข่ายทดสอบ การระงับแอปพลิเคชันและสัญญาณ การลงทะเบียนผู้ดำเนินการเป็นขั้นตอนค่อนข้างช้า การเปิดตัว EigenDA และการสำเร็จการเปิดตัวเครือข่ายหลัก ตามด้วยการเกิดของระบบนิวคลีอาร์อินเทลิเจนซี

Coinbase International จะเริ่มลิสต์ dYdX บนระบบ Cosmos Network

*Layer1

ตลาด Coinbase International Exchange จะเพิ่มการสนับสนุนสำหรับ dYdX บนเครือข่าย Cosmos และจะให้ข้อมูลอัพเดตเกี่ยวกับการเปิดตัวการโอนและซื้อขาย COSMOSDYDX-USDC ในสัปดาห์ถัดไป

Swell Network จะเปิดตัวเครือข่าย L2 rollup และวางแผนเปิดตัว mainnet ในครึ่งปลายปีนี้

*Restaking

โปรโตคอลการปักหลักสภาพคล่อง Swell Network มีกําหนดเปิดตัวเครือข่ายสะสมเลเยอร์ 2 และวางแผนที่จะเปิดตัวเมนเน็ตในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เครือข่าย Layer 2 นี้พัฒนาด้วยเฟรมเวิร์ก "restaked rollup" ของ AltLayer แตกต่างจากการออกแบบ Layer 2 แบบดั้งเดิมและได้รับการพัฒนาโดยใช้ Chain Development Kit (CDK) ของ Polygon ด้วยการสนับสนุนจาก AltLayer เครือข่ายนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ใช้ Swell รวมถึงผลตอบแทนการปักหลักใหม่แบบเนทีฟความสามารถในการปรับขนาดที่ดีขึ้นและค่าธรรมเนียมที่ลดลง โทเค็น Swell ที่กําลังจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้จะถูกใช้สําหรับการกํากับดูแล

เครือข่ายผูกพันทางด้านใน Vega ร่วมมือกับ EigenLayer เพื่อสร้างตลาดอนุพันธ์จุดคริปโต

*Restaking

เครือข่ายดีไรวาได้สร้างตลาดเดอริวาทีฟสำหรับคริปโทพอยต์โดยเริ่มต้นในการร่วมมือกับ EigenLayer ตลาดนี้มีเป้าหมายที่จะอนุญาตให้ผู้ใช้ป้องกันค่าของพอยต์ของตน พอยต์มักถูกใช้ในการแจกจ่ายลมพอยโดยการเข้าร่วมงาน และอาจจะเปลี่ยนเป็นโทเคนในที่สุด ตลาดใหม่นี้ที่ได้รับการเสนอโดย Vega สนับสนุนการสร้างตลาดโดยไม่มีการอนุญาตซึ่งอนุญาตให้ใครก็สามารถเปิดตลาดซื้อขายสำหรับโครงการพอยต์ใด ๆ

Polkadot วางแผนที่จะเปิดตัว Agile Coretime ในเวอร์ชันถัดไป และแผน Polkadot Alpha ได้เปิดตัวแล้ว

*Restaking

Polkadot ประกาศเปิดตัวโปรแกรม Polkadot Alpha Program ก่อนเข้าสู่การใช้งานจริงบน Agile Coretime โปรแกรมมีเป้าหมายในการช่วยทีมมากขึ้นให้ได้พิสูจน์ไอเดียบล็อกเชนของพวกเขาให้เป็นโครงการ โปรแกรม Polkadot Alpha เปิดให้ทีมทุกระดับของการพัฒนาเข้าร่วม รวมถึงทีม parallel chain, ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน, และทีม Dapp และการสมัครสำหรับโปรแกรมนี้เปิดให้สมัครแล้ว ก่อนหน้านี้, นักพัฒนา Parity Joyce ประกาศในฟอรัม Polkadot ว่า Agile Coretime กำลังจะเริ่มต้นด้วยเวอร์ชัน runtime ถัดไป (Polkadot 1.2.0), และจะมีการลงคะแนน OpenGov เพื่อเริ่มต้นการใช้งานบน Kusama

ส่วนที่ 3 กิจกรรมการลงทุนและการจัดหาเงินทุน

เกมเชื่อมโยงระบบ AVAX Castle of Blackwater ได้เปิดตัวรอบทุน $3.65 ล้าน

*GameFi

Castle of Blackwater เกมบล็อกเชนการหักเงินทางสังคมของระบบนิเวศ AVAX ประกาศเปิดตัวรอบการระดมทุน IDO (Initial Dex Offering) มูลค่า 3.65 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึง 750,000 ดอลลาร์สําหรับรอบเมล็ดพันธุ์ 1 ล้านดอลลาร์สําหรับรอบยุทธศาสตร์ 600,000 ดอลลาร์สําหรับรอบส่วนตัว และ 1.3 ล้านดอลลาร์สําหรับรอบสาธารณะ มีรายงานว่าโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากสถาบัน Web3 หลายแห่ง รวมถึง Seedify, Avalanche, Beam, Neo Launch, Merit Circle, Faculty Group, Metrics Ventures และอีกมากมาย อุปทานทั้งหมดของโทเค็นของ Castle of Blackwater คือ COBE คือ 100 ล้านโดยมีการจัดสรรชุมชนเริ่มต้น 1 ล้าน รอบเมล็ดพันธุ์รอบยุทธศาสตร์รอบส่วนตัวและรอบสาธารณะได้รับการจัดสรร 10 ล้าน 10 ล้าน 4 ล้านและ 6.5 ล้านตามลําดับ การลงทะเบียนจะเปิดเวลา 23:00 น. ตามเวลาปักกิ่งในวันที่ 19 มีนาคม และจะปิดเวลา 00:00 น. ในวันที่ 25 มีนาคม

สตูดิโอเกมยิง NFT บนมือถือชื่อ “MadWorld” ของ Carbonated ได้รับเงินทุน 11 ล้านดอลลาร์สำเร็จ

*GameFi

สตูดิโอ MadWorld สตูดิโอเกมยิง NFT บนมือถือ Carbonated ประกาศเสร็จสิ้นรอบทุน 11 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมี Com2uS ยักษ์ใหญ่ในวงการเกมเกาหลีเป็นผู้นำ ร่วมกับ Andreessen Horowitz (a16z), Bitkraft Ventures, Cypher Capital, Blocore, Goal Ventures, และ WAGMI Ventures สตูดิโอเคยได้รับทุน 8.5 ล้านดอลลาร์ในปี 2020 โดย a16z และ Bitkraft ร่วมลงทุนด้วย MadWorld จะเปิดตัวให้กับประชาชนในปี 2024 และกำลังถูกทดสอบบนแพลตฟอร์ม iOS และ Android ในปัจจุบัน ผู้ก่อตั้ง Travis Boatman เป็นผู้รู้จริงในวงการเกมบนมือถือ จากการทำงานเป็นผู้บริหารที่ Zynga และ Electronic Arts

เครือข่าย Ethereum L2 ได้รับเงินทุน 9 ล้าน​ ดอลลาร์สหรัฐ มูลค่า 30 ล้าน​ ดอลลาร์สหรัฐ

*Layer2

Obscuro Labs ผู้พัฒนาเครือข่าย Layer2 Ethereum L2 TEN ได้เสร็จสิ้นรอบการจัดหาเงินทุน 9 ล้านดอลลาร์ รอบการระดมทุนนําโดย R3 โดยมีส่วนร่วมจาก Republic Crypto, KuCoin Labs, Big Brain Holdings, Magnus Capital และ DWF Labs Gavin Thomas ผู้ร่วมก่อตั้งของ Obscuro กล่าวว่าการระดมทุนได้ดําเนินการเป็นขั้นตอนโดยรอบล่าสุดทําให้การประเมินมูลค่าโทเค็นของ Obscuro สูงถึง 30 ล้านดอลลาร์ TEN เป็นเครือข่าย Ethereum L2 ที่เน้นการเข้ารหัส ทําให้นักพัฒนาสามารถเลือกส่วนใดของสัญญาอัจฉริยะเพื่อให้เป็นส่วนตัวหรือสาธารณะ ขณะนี้ TEN อยู่ในโหมด testnet โดยคาดว่า mainnet จะเปิดตัวในเดือนตุลาคม มีรายงานว่าโทเค็นดั้งเดิมของ TEN มีกําหนดเปิดตัวในเดือนมิถุนายน

โปรโตคอลการยืมยูทัคในระบบนิเวศ Merlin Chain บริษัท Avalon Finance เสร็จสิ้นรอบเมล็ดพันธุ์ระดับชาติได้รับเงินทุน 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

*Protocol

โปรโตคอลการให้กู้ยืมครั้งแรกของ Merlin Chain คือ Avalon Finance ประกาศว่าได้เสร็จสิ้นการจัดหาเงินทุนรอบ Seed มูลค่า 1.5 ล้านดอลลาร์โดยมีส่วนร่วมจากสถาบันที่มีชื่อเสียงเช่น SNZ Capital, Summer Capital, Matrixport Venture, Spark Digital Capital และ Web3Port Foundation Avalon Finance เป็นโปรโตคอลการให้กู้ยืมนวัตกรรม DeFi แบบครบวงจรตามระบบนิเวศของ BTC ซึ่งอุทิศตนเพื่อให้บริการทางการเงินที่หลากหลายแก่ผู้ใช้รวมถึงการให้กู้ยืม ในฐานะที่เป็นองค์ประกอบสําคัญของระบบนิเวศ BTC Avalon Finance จะแนะนําสภาพคล่องจากโลกการเงินแบบดั้งเดิมอย่างแข็งขันเพื่อช่วยในการพัฒนาระบบนิเวศ BTC DeFi เงินทุนนี้จะถูกใช้เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมทางเทคโนโลยีของโครงการ

DeMR, โครงสร้างพื้นฐาน MR ของนิรนาม Solana ได้ดำเนินการระดมทุนรอบนายทุนเทพธิบดีแล้ว

*DePIN

DeMR, โครงสร้างพื้นฐาน MR ในนิวคลิปเซิ่นโครงสร้างโซลาน่า ประกาศเสร็จสิ้นรอบทุนเริ่มต้นของมลพิษ ด้วยการมีส่วนร่วมจาก Kucoin Labs, DWF Labs, LD Capital, JDI, Redline Labs, Meteorite Labs และ Paka DeMR เป็นเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐาน MR ที่กระจายอย่างมีความสุขในโซลาน่าบล็อกเชน DeMR ระบุว่ากำลังเตรียมการสำหรับการแจกจ่ายโทเคน DMR ที่กำลังจะมาถึงและการลงทะเบียนเหรียญ

Berachain เป็นยูนิคอร์นด้วยการระดมทุน $69 ล้านเหรียญ มูลค่าที่ $1.5 พันล้านเหรียญ

*DePIN

แพลตฟอร์มบล็อกเชน Berachain กำลังระดมทุนผ่านการขายโทเค็นดิจิทัล โดยมีการประเมินมูลค่าที่กำหนดไว้ที่ $1.5 พันล้านเหรียญ ด้วยรอบการระดมทุนที่เกิน $69 ล้านเหรียญ ซึ่งนำโดย Brevan Howard Digital และ Framework Ventures Berachain กำลังเป็นม้าป่า Berachain เน้นที่การเงินดิจิทัลแบบกระจาย (DeFi) ด้วยโทเค็นหลัก 3 รายการ คือ BERA BGT และ Honey stablecoin เวอร์ชันทดสอบของบล็อกเชนได้ถูกปล่อยให้สาธารณะใช้งานในเดือนมกราคม แต่โครงการนี้ยังไม่เคยเปิดตัวอย่างเต็มที่ นักลงทุนก่อนหน้าของ Berachain รวมถึง Polychain Capital Hack VC Robot Ventures และอื่น ๆ

บริษัทพื้นฐาน Clique จบการจัดทุนระดับ A ขนาด 8 ล้านเหรียญ

*Infra

Clique, บริษัทในโครงสร้างที่เชื่อมต่อข้อมูลผู้ใช้ Web2 และ Web3 อย่างปลอดภัยด้วย identity และ attestation oracles ที่สร้างขึ้นโดยใช้ ZKP, TEE, และ MPC, ได้ระดับเงินในรอบรอบการระดมทุนระดับ A ของตนถึง 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย Polychain Capital เป้าหมายของ Clique คือการสร้างเครือข่ายการประสานคอมพิวเตอร์ที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์วิธีที่แอปพลิเคชัน on-chain และ off-chain เข้าถึงการคำนวณและข้อมูล

นักพัฒนา Web3 shooter Nyan Heroes บริษัท 9 Lives Interactive เสร็จสิ้นการจัดหาเงินทุน 3 ล้านดอลลาร์

*GameFi

9 Lives Interactive ได้รับทุน 3 ล้านดอลลาร์จาก Mechanism Capital พร้อมกับการร่วมลงทุนจาก Delphi Digital, Sfermion, 3Commas Capital, Momentum 6, Kosmos Ventures, Devmons GG และ CSP DAO เพื่อสนับสนุนการเปิดตัวเกมแรกของตน คือการเปิดตัวเกม Nyan Heroes ซึ่งเป็นเกม hero shooter ที่ใช้เทคโนโลยี Web3 มีกลไกที่เฉพาะเจาะจงและได้รับแรงบันดาลจาก IP ที่ถูกออกแบบจากแมวเพื่อส่งเสริมการใช้งานของมวลชน

ส่วนที่ 4 ชีพจรในอุตสาหกรรม

Manta Network ร่วมมือกับ ether.fi เพื่อเปิดตัว Restaking Paradigm ครั้งแรก ที่ที่ staking ETH สามารถขุด double EtherFi airdrop points ได้

*Restaking

Manta Network ได้อิงออกมือกับ ether.fi เพื่อเปิดตัวเป็นครั้งแรก Restaking Paradigm ผู้ใช้งานสามารถ stake ETH บน https://restaking.manta.network/, ผ่านทาง Ethereum mainnet หรือ Manta Pacific, เพื่อรับคะแนน airdrop ของ ether.fi สองเท่า ในปัจจุบัน,ether.fiได้ยืนยันว่าจะถูกลงบน Binance ต่อมา Manta Network จะนำเสนอ Restaking Paradigm พร้อมกับโครงการ Restake ที่หลากหลายมากขึ้น

เครือข่าย Mantle สมบูรณ์การอัพเกรด mainnet v2 Tectonic เพื่อปรับปรุงค่า gas และเพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกัน

*Layer2

เครือข่าย Ethereum Layer2, Mantle Network ประกาศในบล็อกอย่างเป็นทางการว่าได้เสร็จสิ้นการอัพเกรด mainnet v2 Tectonic แล้ว การอัปเกรดนี้ใช้ OP Stack Bedrock และช่วยเพิ่มความสามารถของ Mantle Network ในการจัดหาแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจโดยนําเสนอต้นทุนก๊าซที่ต่ําที่สุดในบรรดาโซลูชัน Ethereum Layer2 นอกจากนี้ยังมีความคืบหน้าในการทํางานร่วมกันกับเครือข่าย EVM อื่น ๆ ภายในระบบนิเวศ OP Stack คุณสมบัติที่ได้รับการปรับปรุงของการอัปเกรดนี้รวมถึงการสนับสนุน EIP-1559 การลบส่วนประกอบที่ซ้ําซ้อนเวลาบล็อกที่คาดการณ์ได้การทําเครื่องหมายสถานะบล็อกการโยกย้ายโทเค็นดั้งเดิมใน L2 การแนะนําธุรกรรมเมตาและกลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพค่าธรรมเนียม การอัปเกรด Mantle v2 Tectonic ดําเนินการหลังจากการปรับใช้เครือข่ายทดสอบที่ประสบความสําเร็จในเดือนมกราคม 2024 ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบอย่างละเอียดโดย OpenZeppelin, Secure3 และ Sigma Prime รวมถึงโปรแกรมเงินรางวัลช่องโหว่สาธารณะที่รองรับโดย Secure3

การอัปเกรด Dencun ของ Ethereum ได้ถูกนำไปใช้ใน Ethereum mainnet อย่างเป็นทางการแล้ว

*Layer2

การอัปเกรด Dencun ของ Ethereum ได้เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการบนเครือข่ายหลัก ยุค 269568 เสร็จสมบูรณ์แล้ว จากจุดนี้การอัปเกรด Dencun ได้ถูกนําไปใช้อย่างเป็นทางการกับเครือข่ายหลักของ Ethereum Ethereum Layer 2 rollups จะใช้วิธีการ "blob" แทนวิธีการ "calldata" เพื่อเผยแพร่ธุรกรรม ต้นทุนการทําธุรกรรมสําหรับ L2 (เช่น Base, Optimism, Arbitrum One, zkSync, Starknet เป็นต้น) จะลดลงอย่างมาก

แพลตฟอร์มเลเยอร์ 1 Nibiru Chain เปิดตัว mainnet อย่างเป็นทางการ

*Layer1

แพลตฟอร์ม Layer 1 Nibiru Chain ได้เปิดตัวเครือข่ายหลักสาธารณะอย่างเป็นทางการแล้ว Nibiru Chain มุ่งเน้นให้บรรยากาศที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับการสร้างแอปพลิเคชันที่มีประสิทธิภาพสูง โดยมีลักษณะของระบบสมาร์ทคอนแทรคที่มีพลัง ที่มอบความเร็วสูงและความปลอดภัย เพื่อเป็นแพลตฟอร์มที่เลือกใช้สำหรับผู้สร้างในด้านเกมส์ สินทรัพย์ในโลกแห่งความจริง (RWAs) โทเคนที่ไม่สามารถแลกเปลี่ยน (NFTs) การเงินดิจิทัล (DeFi) เป็นต้น ในการเปิดตัว Nibiru Chain มีคุณสมบัติหลากหลายสำหรับชุมชนและผู้สร้างที่เป็นไปได้

โปรโตคอล DeFi ในนิเวศ Solana ชื่อ Drift Protocol มีแผนที่จะเปิดตลาด "pre-IPO" สำหรับตราสารใหม่

*Layer2

แพลตฟอร์มการซื้อขายฟิวเจอร์สถาวรระบบนิเวศของ Solana Drift Protocol วางแผนที่จะขยายไปสู่ "ตลาดก่อน IPO" โดยนําเสนอบริการที่ช่วยให้ผู้ค้าสามารถเดิมพันราคาโทเค็นก่อนที่โทเค็นจะเริ่มการซื้อขายอย่างเป็นทางการ โทเค็นแรกที่จะเปิดตัวจะเป็น W ที่กําลังจะมาถึงของ Wormhole แม้ว่าการแลกเปลี่ยนสปอตและฟิวเจอร์สสามารถรับข้อมูลราคาจากแหล่งต่างๆ ได้ แต่ตลาดก่อน IPO ของ Drift สามารถอ้างถึงตัวเองได้เท่านั้นทําให้ง่ายต่อการจัดการ หากไม่ได้รับการควบคุมอาจบังคับให้มีการชําระบัญชีแบบเรียงซ้อนของโปรโตคอลทั้งหมด ตามบล็อกโพสต์ Drift กําลังตั้งค่าอุปสรรคการชําระบัญชีที่จะป้องกันไม่ให้ราคาไม่สามารถควบคุมได้ นอกจากนี้ยังกําหนดให้ผู้ค้าต้องชําระหนี้ใด ๆ ที่พวกเขาสะสมไว้ในผลิตภัณฑ์การซื้อขายอื่น ๆ ซึ่งบางส่วนอนุญาตให้มีตําแหน่งเลเวอเรจที่มีความเสี่ยง

บริษัทรักษาความปลอดภัย: Polyhedra Network ประสบช่องโหว่ในการเข้าถึงกระเป๋าเงินบนโซ่ BNB ทำให้สูญเสีย $1.4 ล้าน

*DeFi

ตามการตรวจสอบโดย Cyvers Alerts, โครงสร้างพื้นฐานสามารถใช้งานร่วมกันแบบฟูลสแต็ก Web3 ของ Polyhedra Network ประสบปัญหาความชุกชุมที่เกี่ยวกับการเข้าถึงวอลเล็ตบนเครือ BNB โจมตีดึงเงิน 1.4 ล้านดอลลาร์, รวมถึง โทเคนมูลค่า 700,000 ดอลลาร์, และแล้วแปลงโทเคนทั้งหมดเป็น BNB กลุ่มคนโจมตีมาจาก Tornado.cash

Dubai International Financial Center DIFC ใช้กฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลใหม่

*ชอบด้วยกฎหมาย

Dubai International Financial Center (DIFC) ประกาศการตรากฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลฉบับใหม่โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ DIFC สอดคล้องกับการพัฒนาทางเทคโนโลยีและให้ความชัดเจนทางกฎหมายสําหรับนักลงทุนและผู้ใช้สินทรัพย์ดิจิทัล กฎหมายมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 8 มีนาคมและมีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมลักษณะทางกฎหมายของสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเต็มที่ในฐานะกฎหมายทรัพย์สินและกําหนดวิธีการควบคุมโอนและจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล DIFC เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษปลอดภาษีในดูไบที่มีระบบกฎหมายอิสระและศาลตามกฎหมายทั่วไปของอังกฤษ กฎหมายนี้ถูกตราขึ้นหลังจากการทบทวนแนวทางการกํากับดูแลในภูมิภาคต่างๆทั่วโลกและการปรึกษาหารือสาธารณะเมื่อปีที่แล้ว

Coinbase ฟ้อง U.S. SEC ที่ปฏิเสธการสร้างกฎระเบียบสกุลเงินดิจิตอล

*กฎหมาย

Coinbase ตลาดหลักทรัพย์คริปโตเคอเรนซีของสหรัฐอเมริกาได้ยื่นฟ้องสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) ในบทสรุปที่ส่งไปยังศาลอุทธรณ์วงจรที่สามในวันจันทร์ Coinbase อ้างว่า SEC ละเมิดพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองโดยไม่มีส่วนร่วมในการสร้างกฎหรือให้เหตุผลโดยละเอียดในการปฏิเสธคําร้องการสร้างกฎของ Coinbase กฎหมายกําหนดวิธีที่หน่วยงานของรัฐบาลกลางสร้างและออกกฎ Coinbase เชื่อว่า ก.ล.ต. ไม่มีอํานาจตามกฎหมายในการขยายกฎระเบียบหลักทรัพย์ที่มีอยู่ไปยังสินทรัพย์ดิจิทัล จุดยืนของ ก.ล.ต. เกี่ยวกับเขตอํานาจศาลเหนือสินทรัพย์ดิจิทัลจําเป็นต้องได้รับการทดสอบผ่านการสร้างกฎ Coinbase ได้ขอให้ SEC กําหนดกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนสําหรับสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ SEC ปฏิเสธคําร้องในเดือนธันวาคม

เกี่ยวกับ IOSG Ventures

IOSG Ventures เริ่มลงทุนในอุตสาหกรรมคริปโตในปี 2017 และเป็นนักลงทุนในระดับเร็วของเวอร์ทิคอลหลักของ Web 3.0 ในฐานะหน่วยงานวิจัยในอุตสาหกรรมและกลุ่มผู้ใช้น้ำเหลืองคริปโตต้นเข้าของเรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการพัฒนาและนวัตกรรมของอุตสาหกรรมในระยะยาวร่วมกับโครงการระดับเริ่มต้นและโปรโตคอลที่ยอดเยี่ยม พอร์ตการลงทุนของเรารวมถึงช่วงโปรเจคท์ที่สร้างสรรค์และมีศักยภาพสูง เช่น ZKRU (Scroll, StarkWare, Arbitrum, zkSync, Taiko), การตรวจสอบความปลอดภัย (Runtime Verification, Hexens), MEV (Flashbots, Blocknative), DeFi/NFT-Fi (1inch, MetaMask), FOG (Big Time, Illuvium), และโปรเจคท์ชั้นนำในอุตสาหกรรม เช่น Arweave, Cosmos, Celestia, EigenLayer, Scroll, zkSync, Nil Foundation และ Mina.

คำให้การ:

1. บทความนี้ถูกคัดลอกมาจาก [GateIOSG Ventures] ชื่อเรื่องเดิม “IOSG Weekly Brief | ทำไมเราถึงลงทุนใน ether.fi? แนวโน้มการพัฒนาอนาคตของ LRT คืออะไร? #217” ลิขสิทธิ์เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ [Jiawei Zhu, IOSG Ventures] หากคุณมีคำประทับใด ๆ เกี่ยวกับการนำเสนออีกครั้ง กรุณาติดต่อGate Learn Team, ทีมจะดำเนินการให้เร็วที่สุดตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง

2. ข้อความโฆษณา: มุมมองและความคิดเห็นที่แสดงในบทความนี้แทนเพียงมุมมองส่วนบุคคลของผู้เขียนเท่านั้น และไม่เป็นที่สร้างสรรค์ข้อเสนอแนะทางด้านการลงทุนใด ๆ

3. เวอร์ชันภาษาอื่น ๆ ของบทความถูกแปลโดยทีม Gate Learn ซึ่งไม่ได้กล่าวถึงGate.io , บทความที่ถูกแปลอาจไม่สามารถทำสำเนา แพร่กระจาย หรือลอกเลียนได้