Repost ชื่อเรื่องเดิม: Sharded L2? “=nil;” วิธีการให้คำตอบใหม่ในการแยกส่วนสถานะ L2

การเปลี่ยนแปลงของ Ethereum เป็นแผนการที่ใช้ rollup กระตุ้นการเติบโตอย่างระเบียบในการออกแบบการขยายของโมดูล การเติบโตนี้เริ่มต้นด้วยความสำเร็จ โดยการกำจัดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมที่มีมูลค่ามากกว่า 100 ดอลลาร์ และปลดล็อคการออกแบบแอปพลิเคชันใหม่โดยสมบูรณ์แบบ แต่เพียงไม่กี่ปีเท่านั้นหลังจากนั้น Ethereum และ rollups ของมันเผชิญกับปัญหาใหม่ที่สำคัญ: การแตกแยกสถานะ

โดยพื้นฐานแล้ว การแยกส่วนของรัฐเป็นปัญหาในการขยายมาตราการ ในช่วงเร็ว ๆ นี้ ชุมชนโมดูลาร์ได้ผลักดันให้มีการแก้ปัญหาทางกลางที่ผสานรวมระบบ rollups ที่มีอยู่เข้าไปในระบบเดียวกัน (ในที่สุด) ได้ทำให้มีประสิทธิภาพทางด้านการขยายของบล็อกเชน - การขยายของแนวนอน อย่างไรก็ตาม วิธีการเหล่านี้มาพร้อมกับการเสียสละที่สำคัญ รุ่นใหม่ของ Ethereum L2s กำลังทบทวนความสามารถในการขยายตั้งแต่พื้นฐาน และใช้เทคนิคทั้งแนวตั้งและแนวนอนเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

ทิศทางการขยายของบล็อกเชนสองทิศทาง

มีกรอบสองประการสำหรับการขยายขอบเขตของบล็อกเชน:

• การปรับขนาดแนวตั้งเพิ่มทรัพยากรที่มีอยู่ให้กับโหนดเดียว นี่คือวิสัยทัศน์ในการขยายขอบเขตของ Solana ในการสูญสิ้นการใช้งานฮาร์ดแวร์มากที่สุด และการเคลื่อนไหว VM (เครื่องจำลอง) แบบขนาน
• การขยายในแนวนอนแจกจ่ายภาระงานไปยังเซิร์ฟเวอร์หลายตัว นี่คือปรัชญาในการเพิ่มขนาดของบล็อกเชน L1 ที่ถูกแชร์ เช่น Near และ Ethereum (Danksharding)

Rollups อยู่ในบางครั้งถูกพิจารณาผิดว่าเป็นโซลูชันในการขยายขอบแนวทางแนวนอนสำหรับ Ethereum อย่างไรก็ตาม ทุก rollup และทุกบล็อกเชนทุกอย่างนั้น ถูกกำหนดโดย ledger ที่มันบริหาร นั่นหมายความว่า rollups เป็นระบบที่แยกออกมาจาก Ethereum จุดประสงค์พื้นฐานของการละเมิดของหลักการขยายฐานข้อมูลพื้นฐานนี้ได้ทิ้งไว้ให้กับ Ethereum โครงสร้างนิวเมอร์รีของ Ethereum ที่จะต้องแก้ปัญหา: การแตกแยกสถานะ

ความท้าทายข้างหน้า

การแยกแยะของรัฐบาลทั่ว L2s ได้เข้าสู่ปัญหาใหญ่สำหรับ Ethereum การแยกแยะถูกนิยามโดยปัญหาที่ใหม่สามปัญหา

• ผลกระทบของเครือข่ายที่ถูกขัดแย้งของสถานะทั่วโลก รวมถึงความสะดวกสบายและการกระจายผู้ใช้ มีรากฐานอยู่ในสิบ (หรือร้อย) L2s ของ Ethereum ที่ผลักดันสำหรับโครงสร้างพื้นฐานที่เฉพาะแอป
• ความซับซ้อนของมาตรฐานการข้ามกันและการประสานสังคมที่เป็นสิ่งกระตุ้นของการแฮ็กการเชื่อมต่อมากกว่า 2.8 พันล้านดอลลาร์
• ประสบการณ์ของนักพัฒนาและผู้ใช้ที่แย่ลงอย่างแท้จริง นักพัฒนาต้องทำงานกับการสร้างมโนเครือข่ายที่ซับซ้อนเพื่อให้ประสบการณ์การใช้งานที่นุ่มนวลหรือผู้ใช้ต้องจัดการความ复杂ของการโต้ตอบไปยังโซนข้ามโซน ซึ่งรวมถึงการสะพานทรัพย์สิน การบริหารจัดการเครือข่ายกระเป๋าเงิน และโทเคนแก๊สหลายรายการ

และปัญหาเหล่านี้กำลังแย่ลงไปเรื่อยๆ ถูก จำกัด โดยโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ การใช้แอปพลิเคชันที่มีราคาที่เชื่อว่าสูงถูกบังคับให้อยู่ในการแยกตัวเพื่อรักษาค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ต่ำอย่างเชื่อถือได้ ในขณะที่วงจรต่อไปเข้ามา ผลกระทบลูกเป็นหิมะที่ร้าวโหยดกำลังจะเกิดขึ้น ขณะที่ค่าธรรมเนียมการแอบ L2 เพิ่มขึ้น นักพัฒนามากขึ้นถูกบังคับให้เลือกโครงสร้างพื้นฐานที่เฉพาะแอปพลิเคชัน ทำให้ปัญหาที่มีอยู่แพร่ผันอยู่มากขึ้น ที่มีประการ มากกับการแยกส่วนสถานะ ในไม่กี่ปีข้างหน้า มันไม่น่าจะน่าแปลกใจถ้าความไม่สามารถของ L2 ที่จะแก้ปัญหาการแยกส่วนสถานะ นำไปสู่การสลายของอำนาจในการประยุกต์ใช้งานของระบบนิเวศอีเธอเรียม

การแก้ไขปัญหาการแยกส่วนของรัฐบาล

การแยกส่วนของรัฐเป็นพื้นฐานเป็นปัญหาในการขยายขนาดโดยซึ่งความรับผิดอยู่ที่ L2 ที่ต้องขยายโดยไม่ทำให้ความสามารถในการประกอบส่วนแตกออก มีวิธีการในการแก้ไขปัญหาการขยายของ L2 สองวิธี

• ผสาน rollup ที่มีอยู่เข้าไปในระบบเดียวกัน ซึ่งจะทำให้มีความสามารถในการขยายตัวแนวนอน
• เริ่มต้นใหม่และออกแบบ L2 ที่มีความยืดหยุ่น

การทำงานถอยหลัง

วิธีแรกเป็นวิธีที่นิยมมากใน L2s ที่มีอยู่แล้ว การผสาน rollups ถูกบรรลุโดยใช้ middleware เพื่อสร้างความเข้าใจในระบบเดียวกัน ในทางปฏิบัติ โซลูชันเหล่านี้ช่วยให้การสื่อสารข้าม rollups ผ่านการรับประกันความเห็นร่วมกัน โซลูชันเช่นผู้เรียงลำดับร่วมกัน, ผู้พิสูจน์ร่วมกัน, และสถาปัตยกรรม L3 ต่าง ๆ

ในขณะที่ทีมและโครงการที่ทำงานกับการแก้ปัญหาเหล่านี้มีความแข็งแกร่ง middleware-centric ในการแก้ปัญหาเรื่องความสามารถในระดับ L2 มาพร้อมกับการทำต่อรวดทางใหญ่ รวมถึง:

• ความอ่อนแอของโซ่: ความปลอดภัยและคุณสมบัติของเครือข่ายถูกสืบทอดมาจากส่วนที่แย่ที่สุดของสแต็ค
• สภาพแวดล้อมของนักพัฒนาที่แตกต่างกัน: สภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันที่เชื่อมโยงกันด้วย middleware ยังคงทำให้ประสบการณ์การพัฒนาแตกต่างกัน
• การประสานการณ์โลกของมาตรฐาน cross-rollup: เพื่อรวม rollups ที่มีอยู่ เราต้องการให้ผู้เกี่ยวข้องที่มากถึงร้อย (บางทีถึงพัน) คนเห็นด้วยกับวิธีการที่ดีที่สุด

สิ่งที่สำคัญกว่าคือมันทำให้ทีม L2 หลอมลืมการแก้ปัญหาที่เปิดเผยของค่าธรรมเนียมการจราจรและการเซ็นเซอร์ชั่นของผู้เล่นเดียว ซึ่งต้องการความพยายามทางวิศวกรรมและการวิจัยที่สำคัญ

เริ่มต้นใหม่

Ethereum L2s สามารถถูกปรับขนาดในทิศทางตั้งฉากโดยการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมในการดำเนินการของโหนด rollup เพื่อเพิ่มการใช้ฮาร์ดแวร์โปรเจกต์เช่น Eclipse และ Movement Labs ที่กำลังสร้าง rollups โดยใช้ SVM และ MoveVM ตามลำดับ วิธีนี้มีความสมบูรณ์สูงสำหรับการปรับปรุงความสามารถในเชิง scalability ในระยะเวลาใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม มันต้องการนักพัฒนา Ethereum ให้ยอมรับเทคโนโลยีใหม่

ในทางกลับกัน L2s สามารถขยายออกในแนวนอนโดยการ (re)-introducing execution sharding ซึ่งจะทำให้เครือข่ายขยายตัวได้โดยการเพิ่มโหนดใหม่ วิธีการนี้สนับสนุนการกระจายอำนวยความสะดวกมีขีดจำกัดในการขยายทฤษฎีสูง และอนุญาตให้มีการปรับปรุงในการขยายในแนวตั้งหากเป็นจำเป็น ด้วยข้อดีเหล่านี้ =nil; Foundation ออกแบบ L2 ชนิด sharded เรียกว่า =nil;.

=nil; จะถูกปรับให้เหมาะสมเพื่อรักษาค่าศักดิ์สิทธิของ Ethereum เช่น การกระจายอำนาจ การต้านการเซ็นเซอร์ และความเป็นไปได้ในการใช้งาน. =nil; เป็นสถาปัตยกรรมการแบ่งส่วนที่ชัดเจนและเชื่อถือได้ที่สุด โดยใช้การออกแบบที่ใหม่zkShardingมันช่วยให้มีคุณสมบัติในการขยายมิติของกรอบการขยายในแนวนอนหลังจากนั้นมีประโยชน์เพิ่มเติมจากสภาพแวดล้อมการพัฒนาที่รวมอยู่ในหนึ่งแห่ง นี้ให้นักพัฒนาโอกาสในการเข้าถึงขอบข่ายของ rollups พันของเครือข่ายเดียว สำคัญกว่านั้น =nil; ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่ำอย่างเชื่อถือได้ แม้จะอยู่ในช่วงโหลดการทำธุรกรรมสูงสุด

นอกจากนี้ =nil; แก้ปัญหาค่าธุรกรรมที่แออัดโดยการแบ่งแยกและผสานสถานะไปข้ามชาร์ดโดยอิงจากความต้องการในการเข้าถึงสถานะ พฤติกรรมเชิงไดนามิกนี้ช่วยให้ =nil; สามารถรักษาค่าธุรกรรมให้คงที่ต่ำอย่างเชื่อถือได้ (<$0.01) โดยรวมพันธมิตรของ =nil; Foundation คือการนำเสนอเส้นทางทางเลือกสำหรับ Ethereum L2 scaling ที่สอดคล้องกับค่านิยมหลักของ Ethereum และความต้องการในการปฏิบัติ L2

คำปิด

นับถึงความท้าทายหลายอย่างที่อยู่ข้างหน้า อนาคตของ Ethereum L2s ดูมั่นใจมากขึ้นกว่าที่เคย ซึ่ง L2 designs ก็กำลังเจริญเติบโตและเข้าสู่รุ่นถัดไปของการแก้ปัญหาในเรื่องของการขยายมาตราฐาน มีการแบ่งแยกอยู่สองแนวทาง: การทำงานย้อนหลัง vs. เริ่มต้นใหม่ และการขยายตนเองแนวนอน vs. แนวตั้ง

Sharding is dead, long live sharding.

คำให้การ:

1. บทความนี้ถูกคัดลอกมาจาก [Gateforesightnews] ลิขสิทธิ์เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ [Avi Zurlo,=nil; Foundation], if you have any objection to the reprint, please contact Gate Learn Team, ทีมจะดำเนินการให้เร็วที่สุดตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง

2. คำปฏิเสธ: มุมมองและความคิดเห็นที่แสดงในบทความนี้เพียงแสดงเฉพาะมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น และไม่ใช่ข้อเสนอแนะใด ๆ เกี่ยวกับการลงทุนใด ๆ

3. รุ่นอื่น ๆ ของบทความถูกแปลโดยทีม Gate Learn และไม่ได้กล่าวถึงในGate.io, บทความที่ถูกแปลอาจไม่สามารถทำสำเนาหรือกระจายหรือลอกเลียนได้