การแข่งขันในตลาดกำลังเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากการเข้าร่วมของการเงินด้านดั้งเดิมและการเติบโตของ stablecoins ที่ผลิตผลตอบแทน Tether และ Circle กำลังสำรวจ “Plan B” ในขณะที่ Coinbase กำลังกดดันให้มีการปฏิรูปด้าน “on-chain interest”

การชำระเงินระหว่างประเทศกำลังผ่านการเปลี่ยนแปลง และ stablecoins อยู่ที่ใจของการเปลี่ยนแปลงนี้ พวกเขากำลังเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกรรมข้ามชาติและกำลังนิยมใหม่ของการชำระเงิน Cobo อยู่ที่ด้านหน้าของการเปลี่ยนแปลงนี้ มันกำลังสร้างรุ่นต่อไปของโซลูชันการชำระเงิน stablecoin ที่ครอบคลุมโครงสร้างกระเป๋าเงิน การปฏิบัติตามกฎ และโซลูชันการเงินที่สร้างรายได้เพียงที่เป็นหนึ่งเดียว

โดยการเลือกCoboผู้ประกอบการสามารถเน้นภายในนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และการเติบโตของผู้ใช้ ทำให้เข้าสู่คลื่นนวัตกรรมทางการเงินของ stablecoin ได้อย่างรวดเร็ว

เรียนผู้อ่าน,

ยินดีต้อนรับสู่ฉบับที่สามของ Stablecoin Weekly! รายงานของสัปดาห์นี้จะลงไปอย่างลึกซึ้งในตลาด stablecoin ที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

เป็นเวลานานที่ผู้ออกเหรียญเชื่อมั่นกับรายได้ที่ได้จากการถือสินทรัพย์เข้มข้นที่ผูกติดกับสกุลเงินต่างประเทศ เช่น พันธบัตรสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามแบบจำลองกำไรแบบดั้งเดิมนี้กำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างมีเหตุผล ความไม่แน่นอนของอัตราดอกเบี้ยสูง การแข่งขันในตลาดที่เพิ่มขึ้น และความต้องการของผู้ใช้ในเรื่องผลตอบแทนทำให้ยากต่อการพัฒนาไปในทิศทางเดียวกันกับดอกเบี้ยจากสินทรัพย์

ในเชิงหน้าหลังการเปลี่ยนแปลงนี้ ผู้เล่นหลักในตลาดกำลังสำรวจเส้นทางการเติบโตที่แตกต่างกัน บรรทัดเหรียญที่มั่นคง Tether ได้เลือกยุทธวิธีการดำเนินการที่มีเสรีภาพอย่างมั่นคง มันเข้าสู่ธุรกิจถือหุ้นอย่างมั่นคงและขยายตัวเข้าสู่เกษตรกรรม สื่อมวลชน กีฬา และแม้กระทั่งเทคโนโลยีด้านขอบ Tether ยังลงทุนแบบกลยุทธ์บางส่วนจากกำไรลงในสินทรัพย์ดิจิทัลเช่น Bitcoin ในปี 2024 Tether ได้รับกำไรมากกว่า 13 ล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นรากฐานแข็งแรงสำหรับยุทธวิธีการดำเนินการที่หลากหลายของมัน

ในทางกลับกัน Circle กําลังมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางธุรกิจและเทคโนโลยีหลัก เช่น การเปิดตัว USDCKit SDK เพื่อลดความซับซ้อนของการรวมการชําระเงินและเตรียมพร้อมสําหรับการเสนอขายหุ้น IPO ดูเหมือนว่า Circle จะมุ่งเน้นไปที่สภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่ชัดเจนยิ่งขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับ "ผลประโยชน์ในห่วงโซ่" เมื่อเร็ว ๆ นี้ Brian Armstrong ซีอีโอของ Coinbase ได้เรียกร้องให้มีการปฏิรูปกฎหมายเพื่อให้ดอกเบี้ยสํารองสามารถแจกจ่ายให้กับผู้ถือได้โดยตรง

อย่างมีนัยสำคัญคือการเพิ่มความกดดันทางการแข่งขันต่อ stablecoins ที่มีผลตอบแทนสูง ธนาคาร JPMorgan คาดว่าส่วนแบ่งตลาดของ stablecoins ที่มีผลตอบแทนสูงจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะเดียวกัน สถาบันการเงินโดยลัพธ์เช่น Northern Trust, ICE และ Mastercard กำลังเข้าสู่ตลาดเพื่อสำรวจการใช้ stablecoins และทรัพย์สิน tokenized

ตามที่ชอนของ Artichoke Capital ชี้แนะ stablecoins คล้ายกับกองทุนตลาดเงิน (MMFs) และมูลค่าสุดท้ายของมันจะขึ้นอยู่กับการใช้งานที่แข็งแรง เช่น การชำระเงินข้ามชาติ DeFi และเศรษฐกิจดิจิทัลที่กว้างขวาง

ตลาด stablecoin ปัจจุบันอยู่ในช่วงระยะเวลาการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ โมเดลกำไรแบบดอกเบี้ยที่เน้นดอกเบี้ยกำลังถูกประเมินค่าใหม่ และความหลากหลาย เทคโนโลยีนวัตกรรม และการประยุกต์ใช้ในทางปฏิบัติจะเป็นประกาศสำคัญของการแข่งขันในอนาคต ฉบับนี้ของจดหมายข่าวจะสำรวจลึกเกี่ยวกับแนวโน้มและพัฒนาการเหล่านี้เพื่อมอบข้อคิดเห็นมากขึ้น

ฟอกัส อินไซท์

🎯 เหรียญเสถียรเป็นกองทุนตลาดเงิน (MMFs) ของโลกดิจิทัล

Shawn จาก Artichoke Capital นำเสนอการเปรียบเทียบที่ซึ่งทราบทั่วไปในบทความของเขาStablecoins และความคล้ายคลึงกับกองทุนตลาดเงิน โดยแสดงให้เห็นว่า stablecoins เหมือนกับกองทุนตลาดเงิน (MMFs) ของโลกดิจิทัล การใช้อุปมานี้ถูกต้องที่จะเข้าใจความคล้ายคลึงระหว่างเครื่องมือการเงินสองประเภทนี้ในการแก้ปัญหาที่คล้ายกันในยุคแตกต่างกัน

ในช่วงต้นปี ค.ศ. 1970 ระบบการเงินของสหรัฐฯ มีช่องโหว่ด้านประสิทธิภาพชัดเจน: บัญชีเช็คไม่ได้รับดอกเบี้ย และตัวเลือกเก็บเงินของบริษัทถูกจำกัด ตลาดต้องการคำตอบ จึงมีการสร้าง MMFs ขึ้นมา พวกเขามอบวิธีการจัดการเงินให้กับธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเว้นเฉพาะกฎระเบียบการเงินที่ล้าสมัย

วันนี้กองทุนตลาดเงินรวมถือสินทรัพย์มากกว่า 7.2 ล้านล้านเหรียญและเป็นหลักการของระบบการเงิน

ประวัติศาสตร์กำลังกำลังทำซ้ำกันกับสกุลเงินคงที่ เหรียญคงที่ที่จัดทำที่คล้ายกันในเศรษฐกิจดิจิทัลและทำหน้าที่เป็นรุ่นดิจิทัลของดอลลาร์ สกุลเงินคงที่ส่วนใหญ่ถูกประกาศกำหนดต่อดอลลาร์โดยธรรมชาติที่ขยายผลกระทบของดอลลาร์สหรัฐฯเข้าสู่พื้นที่ดิจิทัลโลก

เช่น MMFs เหรียญสเตเบิ้ลรักษาค่าคงที่เป็นอย่างมากและเป็นเครื่องมือในการถือเงินว่าง อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างสำคัญคือ เหรียญสเตเบิ้ล จะถูกสร้างขึ้นบนเทคโนโลยีบล็อกเชน ทำให้เป็นแบบไม่ต้องขออนุญาตให้ใครก็ได้ที่มีกระเป๋าเงินดิจิตอลสามารถถือและเทรดเหรียญสเตเบิ้ล

ความกังวลที่เผชิญหน้ากับ stablecoins ในปัจจุบัน - ความเสี่ยงระบบ การล้มเลิกกฎหมายและผลกระทบต่อการทำธุรกรรมของธนาคารแบบดั้งเดิม - มีความคล้ายคลึงกับความท้าทายที่เจอมาแก่ MMFs ในวันก่อน ประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เห็นว่านวัตกรรมทางการเงินที่แก้ปัญหาในโลกของจริงในที่สุดจะพบกรอบกฎหมายที่เหมาะสม

ศักยภาพที่แท้จริงของ stablecoins อยู่ที่บทบาทของพวกเขาเป็นดอลลาร์ดิจิทอลและในโครงสร้างพื้นฐานที่พวกเขาให้บริการสำหรับการเงินที่เฉพาะกิจ (DeFi) Stablecoins สามารถมองเห็นได้เป็นระบบไหลเวียนของ DeFi

ในระยะสั้น สเตเบิ้ลคอยน์อาจรับบริการผู้ใช้ทางการค้าส่วนบุคคลและภูมิภาคนอกสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใช้ที่มีระบบการเงินดั้งเดิมที่ไม่เป็นประสิทธิภาพ ในระยะยาว แพลตฟอร์มที่มีจำนวนผู้ใช้มากจะเล่นบทบาทที่สำคัญในการส่งเสริมการใช้งาน

ประวัติศาสตร์ทางการเงินแสดงให้เห็นว่าเมื่อเครื่องมือใหม่ที่จะตอบสนองความต้องการพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การนำมาใช้จะเกิดขึ้นได้เร็วขึ้นและกว้างขึ้นมากกว่าที่คาดคิด สำคัญที่จะทราบว่าเราไม่ควรเน้นเฉพาะบิตคอยน์เท่านั้น — stablecoins อาจเป็นส่วนสำคัญที่สุดของส่วนร่วมของคริปโตสำหรับการเงินดั้งเดิม

🎯 ทวีคุณลงทุนเกินไป: กลยุทธ์การความหลากหลายของเทเธอร์

Stablecoin giant Tether is undergoing a strategic transformation. Known for issuing the USDT stablecoin pegged to the U.S. dollar, the company is now actively expanding into diversification outside of its core business. This move is not accidental but a response to the limitations of its current business model and the growing market competition.

เป็นเวลานานที่เทเธอร์มีกำไรหลักจากรายได้ที่ได้จากสินทรัพย์สำรอง USDT ที่มหาศาล (ปัจจุบันเกิน 140 พันล้านดอลลาร์ รวมถึงมากกว่า 113 พันล้านดอลลาร์ในพันธบัตรธนาคารสหรัฐ). อย่างไรก็ตาม แบบจำลองนี้มีเพดานการเติบโตอย่างมีอยู่แล้ว การพึ่งพาเฉพาะรายได้จากดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารไม่สามารถทนทานต่อไปได้อีกต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยในอนาคตและสภาวะทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน อีกทั้ง ความกดดันในเชิงกฎหมายจำกัดความสามารถของเทเธอร์ในการแบ่งปันกำไรจากสำรองโดยตรงกับผู้ถือ USDT นำไปสู่การเสี่ยงต่อเทียบกับสถาบันการเงินแบบดั้งเดิม

ในที่เดียวกัน การเพิ่มขึ้นของ stablecoins ที่มีการผลิตดอกเบี้ยกำลังสร้างความแข่งขันที่เพิ่มขึ้นสำหรับ Tether สกุลเงินเหรียญเหล่านี้ที่มีการให้ผลตอบแทนดอกเบี้ยให้กับผู้ถือหนี้คาดว่าจะช่วยจับบริบทที่สำคัญของส่วนแบ่งตลาดได้JPMorgan คาดการณ์ว่าส่วนแบ่งของพวกเขาจะเติบโตจาก 6% เป็น 50%. นี่เป็นท้าทายใหญ่สำหรับ stablecoin แบบ traditional เช่น USDT ที่ไม่สามารถมอบผลตอบแทนที่เหมือนกัน

เพื่อที่จะแก้ไขความท้าทายนี้ ทีเธอร์กำลังมองหาเครื่องยนต์การเติบโตใหม่อย่างใจคล่อง ด้วยกลยุทธ์การแยกแยะที่ชัดเจนซึ่งครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม:

• เพิ่มส่วนแบ่งของบริษัทเกษตร Adecoagro (AGRO) ในอเมริกาละตินเป็น 70% มุมมองของผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้เป็นการเคลื่อนไหวทางกลยุทธ์เข้าสู่เศรษฐกิจและการจัดสรรสินทรัพย์ที่หลากหลาย

• การเข้าถือส่วนของบริษัทสื่ออิตาลีชื่อ Be Water เพื่อสำรวจเนื้อหาดิจิทัลและเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น

• การซื้อหุ้นส่วนของสโมสรฟุตบอลอิตาลี ยูเวนตุส เอฟซี เพื่อพยายามรวมสินทรัพย์ดิจิทัลกับอุตสาหกรรมกีฬาและขยายอิทธิพลของตราสินค้าของตน

• การลงทุนขนาดใหญ่ในแพลตฟอร์มวิดีโอ Rumble และ บริษัทอินเตอร์เฟซสมอง-คอมพิวเตอร์ Blackrock Neurotech นี้สะท้อนถึงความสนใจของมันในเทคโนโลยีชายแดนและนวัตกรรม

การพยายามด้านการแยกประเภทเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อลดความเสี่ยงทางธุรกิจ ลดการพึ่งพาในการออกเหรียญ stablecoin เดียว และการจัดการสำรองเงิน และเปิดโอกาสใหม่ที่อาจมีกำไรสูงกว่า ทั้งหมดนี้รักษาความยั่งยืนของบริษัทไว้เป็นระยะยาว ความสำคัญคือ Tether ได้รับกำไรมากกว่า 13 พันล้านเหรียญในปี 2024 ซึ่งเป็นฐานเงินทุนทางการเงินที่แข็งแรงสำหรับกลยุทธ์การแยกประเภทที่มีเสถียร

Stablecoins ควรได้รับดอกเบี้ย: ประธาน​เจ้าหน้าที่​บริษัท Coinbase เรียกร้องการปฏิรูปกฎหมาย

ในบทความของเขา “การปลดล็อคดอกเบี้ยบนเชื่อมโยงเป็นการชนะ-ชนะ,” ซีอีโอของ Coinbase Brian Armstrong อ้างว่า สหรัฐฯ ควรแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับ stablecoin เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถรับดอกเบี้ยจากสินทรัพย์สำรองได้เช่นเดียวกับบัญชีธนาคาร传统 กรอบกฎหมายปัจจุบันเก่าแก่ จำกัดโดยประการเทียบ ทำให้ stablecoin ไม่สามารถใช้ได้เต็มที่และก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้บริโภคทั่วไปและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

โดยทั่วไป Stablecoins จะได้รับการสนับสนุนจากสกุลเงินเฟียตเช่นดอลลาร์สหรัฐโดยผู้ออกจะลงทุนในสินทรัพย์สํารองเหล่านี้ในตราสารที่มีความเสี่ยงต่ําเช่นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้น ดอกเบี้ยที่สร้างขึ้นมักจะถูกเก็บไว้โดยผู้ออก แนวคิดหลักของ "ดอกเบี้ยแบบ on-chain" คือการกระจายดอกเบี้ยที่ได้รับจากเงินสํารองเหล่านี้ไปยังผู้ถือ Stablecoin โดยตรง คล้ายกับบัญชีตรวจสอบที่มีดอกเบี้ย

อย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดทางกฎหมายได้เป็นอุปสรรคในกระบวนการนี้ สาเหตุหลักคือกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่ได้ทันต่อการพัฒนาทางเทคโนโลยี ต่างจากบัญชีเงินฝากและเงินออมที่มีดอกเบี้ยแบบดั้งเดิม สกุลเงินคงที่ในปัจจุบันยังไม่ได้รับการยกเว้นเหมือนกันภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ ซึ่งทำให้ยากต่อการจ่ายดอกเบี้ยให้กับผู้ใช้ได้ ควรมีกฎหมายใหม่สำหรับสกุลเงินคงที่เพื่อกำจัดอุปสรรคและอนุญาตให้สกุลเงินคงที่ที่ได้รับการควบคุมสามารถให้ดอกเบี้ยตรงต่อผู้บริโภคได้ เพื่อให้สามารถทำหน้าที่เหมือนบัญชีเงินออมทั่วไปโดยไม่มีการเปิดเผยและผลกระทบทางภาษีมากเกินไป

ทำไมการเปลี่ยนแปลงนี้สำคัญ

• ผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาสามารถรับผลตอบแทนใกล้เคียงกับอัตราตลาด (4.75%) แทนที่จะได้รับผลตอบแทนเล็กน้อยจากบัญชีธนาคาร (0.41%)

• คนที่ไม่มีบัญชีทั่วโลกสามารถเข้าถึงความมั่นคงและผลตอบแทนของดอลลาร์สหรัฐเพียงแค่มือถือเท่านั้น

• เสริมความแข็งแกร่งของบทบาทของดอลลาร์ และดึงดูดผู้ใช้ทั่วโลกเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจดอลลาร์ของสหรัฐอเมริกา

ข้อกีดขวางปัจจุบันเกิดขึ้นเพียงเพราะความล่าช้าในการกำหนดกฎหมาย—บัญชีตรวจสอบแบบดั้งเดิมสามารถจ่ายดอกเบี้ยและสกุลเงินคงที่ที่ได้รับการควบคุมควรได้รับการรักษาเดียวกัน

การปกครองและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ

🏛️ หน่วยงานคุมสภาพการเงินของสหราชอาณาจักร UK จะออกใบอนุญาตทางกฎหมายสำหรับบริษัทด้านสกุลเงินดิจิทัลเริ่มตั้งแต่ปี 2026

คำสำคัญ:

• หน่วยงานควบคุมทางการเงินของสหราชอาณาจักร (FCA) วางแผนที่จะเริ่มออกใบอนุญาตทางการเงินแก่บริษัทด้านสกุลเงินดิจิทัลในปีหน้า หลังจากการปรึกษากับอุตสาหกรรมและการใช้กฎหมายใหม่

• บริษัทหลายร้อยบริษัทที่เคยล้มเหลวในการรับทะเบียนภายใต้ re จัดเกณฑ์ชั่วคราวของ FCA โครงสร้างที่กำลังจะมาถึงจะเข้มงวดและครอบคลุมมากขึ้น

เหตุสำคัญ

• นี่เป็นการเปลี่ยนจากการลงทะเบียนชั่วคราวเป็น reสิ่งจำเป็นในสังกัดในสหราชอาณาจักร มันให้เส้นทางสำหรับผู้ออกเหรียญ stablecoin และตลาด

• ในขณะที่มาตรฐานสำหรับการเข้าร่วมจะถูกยกระดับ บริษัทที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบจะได้รับประโยชน์จากสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่มั่นคงและที่สามารถคาดเดาได้มากขึ้น

เปิดตัวสินค้า

👀Circle ปล่อย SDK USDCKit เพื่อทำให้การชำระเงินและอัตโนมัติ USDC ง่ายขึ้น

ข้อความสำคัญ:

• Circle ได้เปิดตัว USDCKit, SDK สำหรับนักพัฒนาที่ช่วยให้การชำระเงินด้วย USDC เป็นไปอย่างเรียบง่าย, อัตโนมัติขั้นตอนการทำงาน, และเสริมความเป็นอยู่ที่เป็นไปตามกฎระเบียบของ Circle Wallets ได้แล้ว

• โดยการ提供เครื่องมือที่สร้างไว้ล่วงหน้าและ intuituve USDCKit ลดความซับซ้อนในการผสานรวมและทำให้ธุรกิจสามารถขยายการชำระเงิน USDC ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทำไมมันสำคัญ:

• เมื่อการชำระเงินด้วย stablecoin ได้รับความนิยม USDCKit จะให้นักพัฒนาเครื่องมือที่มีการเติบโตได้ ที่จะให้ความสำคัญกับการสร้างผลิตภัณฑ์ มากกว่าโครงสร้างพื้นฐาน

• สำหรับ PSPs และแพลตฟอร์มสำหรับการโอนเงินข้ามชาติ SDK รองรับประสิทธิภาพสูง การไหลเงินอัตโนมัติ การโอน USDC ข้ามเชน และการปฏิบัติต่อกฎหมายที่ดีขึ้น - ลดต้นทุนดำเนินการและเวลาตลอดจนตลาด

👀Northern Trust จะให้บริการการจัดเก็บและการบริหารเงินสดสำหรับ Haycen เจ้าของสกุลเงินเซตเบิ้ลคอยน์ในการค้า

ข้อความสำคัญ:

• บริษัทในกลุ่มธนาคารใหญ่ Northern Trust จะให้บริการฝากเงินและเงินสดให้กับ Haycen ผู้ออกสกุลเงินเหรียญที่มุ่งเน้นทางการเงินการค้า

• Haycen ให้ความสำคัญกับความมั่นคงของเหรียญในการให้คำแนะนำสำหรับผู้ให้บริการที่ไม่ใช่ธนาคารในการค้าระหว่างประเทศ และได้รับการสนับสนุนจากเงินทุนของรัฐบาลสหราชอาณาจักรอังกฤษ

เหตุผลที่สำคัญ:

• เน้นถึงความมั่นใจที่เติบโตของสถาบันในการใช้ Stablecoin ในกรณีใช้งานในการค้า—ส่วนงานที่พร้อมที่จะถูกพัฒนาใหม่.

• กับการเทรดไฟแนนซ์ระหว่างประเทศที่ยังพึ่งพาอย่างมากที่ยังใช้ขั้นตอนการทำงานด้วยมือ ฮายเซนน์เสนอ sol ชั่วโมงชำระเงินแบบเรียลไทม์และลดการเสียค่าใช้จ่ายสำหรับการโอนเงินข้ามชาติในตลาดที่มีมูลค่าเกิน 2 ล้านเหรียญ

👀 ICE (Parent of NYSE) จะสำรวจ USDC และกองทุนที่ tokenized ของ Circle สำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่

ข้อความสำคัญ:

• ICE วางแผนที่จะสำรวจการใช้งานสำหรับ USDC และกองทุนตลาดเงินที่ถูกโทเค็นไว้ USYC ทั้งในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน บ้านค้าสำหรับล่วงละเมิด และแพลตฟอร์มอื่น ๆ

• นี่เป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มที่กว้างขวางในหมู่สถาบันการเงินของสหรัฐฯ ที่รวมเหรียญที่มั่นคงและทรัพย์สินที่ถูกโทเค็นไว้ ตามการปรับปรุงความชัดเจนของกฎหมาย

เหตุสำคัญที่

• สะท้อนการนำการใช้งาน TradFi ที่เร่งรัดของโครงสร้างบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล

• การเดินหน้าสำคัญในกระบวนการผสานระหว่างการเงินดั้งเดิม (TradFi) และการเงินที่ไม่มีกลาง (DeFi) ซึ่งเกิดจากความก้าวหน้าทางกฎหมาย

👀USD₮0 เข้าใช้งานบน Unichain เพิ่มประสิทธิภาพของ DeFi

ข้อความสำคัญ:

• USD₮0, เวอร์เชียนต์ข้ามโซนของสเตเบิ้ลคอยน์ USD₮ รายใหญ่ของโลก กำลังเปิดให้บริการบนยูนิเชนแล้ว

• ผู้ใช้ Unichain ได้รับประโยชน์จากการลดความคลาดเคลื่อน, ค่าธรรมเนียมที่ลดลง, การเทรดที่เร็วขึ้น, และการจัดสรรเงินทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

• USD₮0 ถูกใช้งานในมาตรฐาน ERC-7802 เพื่อให้แน่ใจว่าเกิดความสอดคล้องทั่วไปในเครือข่าย Superchain

• Stargate Finance ช่วยให้สามารถเข้าถึง Likuiditas USD₮ ข้าม rollups และโปรโตคอลอื่น ในระบบ Superchain ผ่าน USD₮0 ที่ bridged

Mastercard กำลังสร้างเครือข่ายที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชนเพื่อกลายเป็น "Venmo ของคริปโต"

จุดสำคัญ:

• Mastercard กำลังขยายความสามารถทางบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิตอลเพื่อให้บริการลูกค้าและสถาบันการเงินได้ดียิ่งขึ้น

• มันมุ่งหวังที่จะทำซ้ำโมเดลเครือข่ายการ์ดเดิมของมันบนเชืองโซน เพื่อให้การชำระเงินดิจิทัลสินทรัพย์เป็นไปอย่างราบรื่น โครงการเครือข่าย “มัลติโทเคน” ของมันรวมถึงความร่วมมือกับ JPMorgan และ Standard Chartered

ทำไมมันสำคัญ:

• การเคลื่อนไหวนี้มีเป้าหมายที่จะบูรณาการการไหลเวียนของเงินระหว่างการเงินแบบดั้งเดิมและการเงินแบบไม่มีกฎหมาย การเชื่อมโยงช่องว่างในกรอบการปฏิบัติข้อบังคับและประสบการณ์ผู้ใช้ มันทำให้ Mastercard เป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในพื้นที่เครื่องมือเงินดิจิทัล ซึ่งอาจจะเป็นการสร้างคุณค่าแข่งขันที่เหมือนกับที่มีในการชำระเงินแบบดั้งเดิม
• เนื่องจากทิศทางกฎหมายกำหนดให้ชัดเจนขึ้นและสถาบันการเงินดั้งเดิมแสดงความสนใจที่เพิ่มขึ้นในสินทรัพย์ดิจิทัล การตั้งตำแหน่งทรัพยากรกลยุทธ์ของ Mastercard มีโอกาสได้รับประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมและอาจช่วยส่งเสริมการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลให้กว้างขวางขึ้น

การนำไปใช้ในตลาด

เหรียญEthereum-Based Stablecoin Supply สูงสุดที่เคยมีมา มียอดเกิน 132.4 พันล้าน

คำสำคัญ:

• สินค้าเสถียรทั้งหมดของ Ethereum ได้รับการสร้างสรรค์เพิ่มขึ้นมาถึงจุดสูงสุดใหม่ พุ่งเกิน 132.4 พันล้านเหรียญครั้งแรกในเกือบสามปี

• ในเวลา 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเท่านั้น มูลค่าเพิ่มขึ้น 321 ล้านดอลลาร์; ในช่วงเดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเกือบ 2.8 พันล้านดอลลาร์

• มูลค่าตลาดสเตเบิ้ลคอยน์ระดับโลกเกิน 200 พันล้านเหรียญ: USDT นำด้วย 142 พันล้านเหรียญ ตามด้วย USDC ที่ 49 พันล้านเหรียญ

• Ethereum accounts for 58% of all stablecoins, followed by Tron (31%) and BNB Chain (3%).

Tokenized Treasuries มีการเติบโตมากกว่า 500% YoY อย่างไรก็ตามยังคงเพียง 2% ของตลาดสเตเบิ้ลคอยน์

ข้อความสำคัญ:

• มูลค่าตลาดของสัญญา US Treasuries ที่ถูกโทเคไนซ์เพิ่มขึ้นจาก 800 ล้านเหรียญเป็น 5.2 พันล้านเหรียญ โตขึ้น 1 พันล้านเหรียญในเพียงสองสัปดาห์เท่านั้น โดยเสนอจาก BlackRock และ Securitize

• ในขณะที่ผู้ออกสกุลเงินที่มั่นคงเช่น Tether ได้ประโยชน์จากผลตอบแทนจากส่วนสำรอง การส่งผลตอบแทนให้ผู้ใช้ทำให้มีหน้าที่กฎหมายที่เข้มงวดมากขึ้น

• ความไม่แน่นอนทางกฎหมายและกฎระเบียบที่ซับซ้อนเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการนำเสนอหนี้ของรัฐในรูปแบบโทเคนได้มากขึ้น

🌱Ripple ร่วมงานกับ Chipper Cash เพื่อเสริมสร้างระบบการชำระเงินในทวีปแอฟริกาผ่าน XRP

Key Points:

• Ripple ได้ร่วมมือกับ Chipper Cash เพื่อใช้ XRP และ Ripple Payments ในการทำธุรกรรมข้ามชาติในแอฟริกา

• Chipper Cash ให้บริการกับผู้ใช้ 5 ล้านคนใน 9 ประเทศ; การบูรณาการช่วยให้สามารถส่งเงินไปรายละเอียดทั่วโลก 24 ชั่วโมงต่อวัน

• บทบาทของ XRP ในการเป็นสะพานการชำระเงินระดับโลกถูกเสริมเพิ่มเติมอีกต่อไป—ช่วยแก้ไขปัญหาประสิทธิภาพที่ต่ำและค่าใช้จ่ายสูงในระบบดั้งเดิมของแอฟริกา

Tokenized Gold Hits All-Time High of $1.4B Market Cap and $1.6B in Volume

คำสำคัญ:

• ทอเคนไรส์ทอเคนไรส์ทอเคนไรส์ ได้รับการประเมินมูลค่าตลาด $1.4 พันล้านเหรียญและมูลค่า 24 ชั่วโมง $1.6 พันล้านเหรียญ โดยนำโดย XAUT ของ Tether ($749 ล้านเหรียญ) และ PAXG ของ Paxos ($653 ล้านเหรียญ) ราคาทองแท้เกิน $3,000/อองซ์ ได้เป็นเหลือเชื่อในความต้องการ

• ตลาดสเตเบิ้ลคอยน์ที่กว้างขวางมียอดรวม 231 พันล้านเหรียญหลังจาก 18 เดือนของการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อำนาจของ USDT กำลังลดลง (62.1%) ในขณะที่ USDC เพิ่มขึ้น 7% ไปสู่เกือบ 60 พันล้านเหรียญ

• เหรียญ USDtb ของ Ethena ดึงดูดสินทรัพย์มากกว่า 1 พันล้านเหรียญ ทำให้เป็นเหรียญที่มีมูลค่าสูงที่สุดอันดับ 8 โครงสร้าง MiCA กำลังกระตุ้นการเติบโตของเหรียญที่มีค่าคงที่ในยูโร เหรียญ EURC ของ Circle เติบโตขึ้น 30% ถึง 157 ล้านเหรียญ ตอนนี้ครอง 45% ของตลาดเหรียญที่มีค่าคงที่ในยูโร

• ทอเคนไนซ์โกลด์สะท้อนความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับสินทรัพย์ที่ปลอดภัย.

• ตลาดสเตเบิ้ลคอยน์กำลังมีความหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะในเชิงภูมิภาคและการปฏิบัติตามกรอบกฎหมายของ MiCA เปิดโอกาสใหม่

การเคลื่อนไหวทุน

💰Tether เพิ่มส่วนแบ่งในธุรกิจเกษตร Adecoagro ในแอมเบอริกาลาตินเป็น 70%

ข้อความสำคัญ:

• Tether เพิ่มการเป็นเจ้าของใน Adecoagro จาก 51% เป็น 70% โดยซื้อหุ้นที่ราคา $12.41 ต่อหุ้น หุ้นขึ้น 7% ก่อนตลาดเปิดที่ $11.95

• Tether ลงทุนเพิ่มเติม 10 ล้านยูโรสำหรับส่วนแบ่ง 30.4% ในบริษัทสื่ออิตาเลียน Be Water

ทำไมมันสำคัญ:

• เน้นจุดเด่นของการดำเนินการที่หลากหลายกว่าด้านเครื่องหมายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลเพื่อเน้นเป้าหมายที่ยั่งยืน และมีรายได้

• การเสริมความหลากหลายของการเปิดเผยเสร็จสรรของเทเธอร์เสริมทัพตำแหน่งระดับโลกและอาจดึงดูดความสนใจมากขึ้นจากนักลงทุนด้านดั้งเดิม

Circle เลือกใช้ธนาคารลงทุนเพื่อเร่งแผน IPO, มีเป้าหมายเสนอโฟล์ดในช่วงสิ้นเมษายน

ข้อความสำคัญ:

• มูลค่าตลาดของ USDC—หลังจากเกิดวิกฤต SVB แล้วเคยเกิน 50 พันล้านเหรียญ—ได้ฟื้นตัวกลับมาอยู่ที่ประมาณ 60 พันล้านเหรียญ อย่างไรก็ตามรายได้ของ Circle มีการพึ่งพาอย่างมากในรายได้จากดอกเบี้ย

• มูลค่าของ Circle ลดลงจาก 9 พันล้านเหรียญในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 เหลือประมาณ 5 พันล้านเหรียญในตลาดรอง; IPO เน้นทำเครื่องที่มูลค่า 4–5 พันล้านเหรียญ

เหตุผลที่สำคัญ:

• IPO ของ Circle จะทดสอบความเชื่อของนักลงทุนในรูปแบบธุรกิจ stablecoin โดยเฉพาะการพึ่งพากำไรจากดอกเบี้ย (99% ของรายได้ทั้งหมด)

• กฎหมายเกี่ยวกับสกุลเงินเสถียรในสหรัฐฯ ที่กำลังดำเนินการอยู่ ช่วยให้ Circle มีโอกาสที่จะได้รับการสนับสนุนจากการลงทุนโดยมีสภาพแวดล้อมกฎหมายที่ชัดเจน

• เมื่อการแข่งขันในตลาดสเตเบิ้ลคอยน์กำลังร้อนขึ้นด้วยการมีส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้นจากบริษัทคริปโตและสถาบันการเงินดั้งเดิม Circle ต้องเผชิญกับความดันที่เพิ่มขึ้นในการแสดงศักยภาพในการควบคุมธุรกิจของตนเพื่อรักษาความเชื่อมั่นของนักลงทุน

💰Tether เพิ่มบิตคอยน์ 8,888 ในไตรมาส 1 รวมถึงมีบิตคอยน์ 92,646 BTC

ข้อความสำคัญ:

• Tether ได้รับ 8,888 BTC ในไตรมาส 1 ปี 2025 ที่ราคา 735 ล้านเหรียญ.

• Tether ถือกำลังมี BTC มากกว่า 92,647 เหรียญ มูลค่าประมาณ 7.8 พันล้านเหรียญ เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งเริ่มต้นในเดือนพฤษภาคม 2023 เพื่อลงทุน 15% ของกำไรทุกไตรมาสในสินทรัพย์ Bitcoin

คำปฏิเสธ:

1. บทความนี้ถูกพิมพ์ใหม่จาก [ Substack]. ลิขสิทธิ์เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ [เสถียรสัปดาห์]. หากคุณมีข้อความที่ไม่เห็นด้วยกับการพิมพ์ซ้ำ โปรดติดต่อเกตเรียนทีม ทีมจะดำเนินการเร็วที่สุดตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง

2. ข้อความประกอบที่แสดงอยู่ในบทความนี้เพียงแสดงเพียงความคิดเห็นและมุมมองส่วนบุคคลของผู้เขียนเท่านั้น และไม่เป็นที่เก็บกวาดใด ๆ ในการลงทุน

3. รุ่นอื่น ๆ ของบทความถูกแปลโดยทีม Gate Learn บทความที่ถูกแปลอาจไม่สามารถคัดลอก แจกจ่ายหรือลอกเลียน โดยไม่ระบุGate.