เคยนึกไหมว่าจะเป็นอย่างไรถ้าเงินงอกเงยมาเรื่อยๆ โดยที่เราไม่ต้องรีบออกไป? นี่ไม่ใช่นิยายการเงินหรอกเพราะ Passive Income มีอะไรบ้าง และสามารถสร้างได้จริง ความสำคัญคือต้องเข้าใจว่าแต่ละวิธีมีหลักการอย่างไร จึงจะสามารถเลือกตัวเลือกที่เหมาะกับสถานการณ์ของตัวเองได้
ทำความเข้าใจรายได้แบบต่างๆ ของคนรวย
ก่อนจะเจาะลึก Passive Income มีอะไรบ้าง ลองเข้าใจว่าการสร้างความมั่งคั่งมีกี่ประเภท สำคัญคือพอเข้าใจ Active Income, Passive Income และ Portfolio Income แล้ว คุณจะเห็นภาพการเงินชัดขึ้น
Active Income เป็นเงินที่เรารับได้จากการทำงานเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน ค่าจ้าง หรือค่าแรง ลักษณะเฉพาะคือเรียกว่า “ตัวตัดเงิน” – หยุดทำงานก็หยุดมีรายได้ ต้องลงแรงงานอย่างต่อเนื่องถึงจะมีเงินเข้า
Passive Income ตรงกันข้ามเลย เป็นกระแสเงินสดที่ไหลเข้ามาแบบสม่ำเสมอโดยไม่ต้องทำงานเป็นประจำ ตัวอย่างเช่น เช่าบ้านออกไป ทุกเดือนก็มีค่าเช่าเข้ามา หรือถือหุ้นที่จ่ายปันผล ก็ได้รับเงินปันผลประจำปี
Portfolio Income อย่างประเภทสุดท้ายนี้คือกำไรจากการซื้อขาย เช่นกำไรจากการขายหุ้นได้สูงกว่าราคาซื้อ หรือเงินลงทุนที่ขายได้ราคาสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม Portfolio Income ถือว่าต่างจาก Passive Income เพราะต้องมีการวางแผนและเฝ้าสังเกตตลาดอยู่ตลอด แต่เงินปันผลที่ได้รับจากหุ้นนั้นสามารถนับเป็น Passive Income ได้
Passive Income มีอะไรบ้าง และจะเลือกอันไหน ขึ้นอยู่กับเงินทุน เวลา ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ สิ่งเหล่านี้อาจเอามารวมกันให้สร้างรายได้พหุวิธี ความจริงคือ Passive Income ช่วยให้ใครก็ได้ไปสู่อิสระทางการเงินได้เร็วขึ้นกว่าพึ่ง Active Income คนละคนก็มีเส้นทางของตัวเอง ไม่ต้องเลียนแบบใคร
Lihat Asli
Halaman ini mungkin berisi konten pihak ketiga, yang disediakan untuk tujuan informasi saja (bukan pernyataan/jaminan) dan tidak boleh dianggap sebagai dukungan terhadap pandangannya oleh Gate, atau sebagai nasihat keuangan atau profesional. Lihat Penafian untuk detailnya.
Cara mendapatkan penghasilan tanpa harus berusaha: Apa saja Passive Income
เคยนึกไหมว่าจะเป็นอย่างไรถ้าเงินงอกเงยมาเรื่อยๆ โดยที่เราไม่ต้องรีบออกไป? นี่ไม่ใช่นิยายการเงินหรอกเพราะ Passive Income มีอะไรบ้าง และสามารถสร้างได้จริง ความสำคัญคือต้องเข้าใจว่าแต่ละวิธีมีหลักการอย่างไร จึงจะสามารถเลือกตัวเลือกที่เหมาะกับสถานการณ์ของตัวเองได้
ทำความเข้าใจรายได้แบบต่างๆ ของคนรวย
ก่อนจะเจาะลึก Passive Income มีอะไรบ้าง ลองเข้าใจว่าการสร้างความมั่งคั่งมีกี่ประเภท สำคัญคือพอเข้าใจ Active Income, Passive Income และ Portfolio Income แล้ว คุณจะเห็นภาพการเงินชัดขึ้น
Active Income เป็นเงินที่เรารับได้จากการทำงานเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน ค่าจ้าง หรือค่าแรง ลักษณะเฉพาะคือเรียกว่า “ตัวตัดเงิน” – หยุดทำงานก็หยุดมีรายได้ ต้องลงแรงงานอย่างต่อเนื่องถึงจะมีเงินเข้า
Passive Income ตรงกันข้ามเลย เป็นกระแสเงินสดที่ไหลเข้ามาแบบสม่ำเสมอโดยไม่ต้องทำงานเป็นประจำ ตัวอย่างเช่น เช่าบ้านออกไป ทุกเดือนก็มีค่าเช่าเข้ามา หรือถือหุ้นที่จ่ายปันผล ก็ได้รับเงินปันผลประจำปี
Portfolio Income อย่างประเภทสุดท้ายนี้คือกำไรจากการซื้อขาย เช่นกำไรจากการขายหุ้นได้สูงกว่าราคาซื้อ หรือเงินลงทุนที่ขายได้ราคาสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม Portfolio Income ถือว่าต่างจาก Passive Income เพราะต้องมีการวางแผนและเฝ้าสังเกตตลาดอยู่ตลอด แต่เงินปันผลที่ได้รับจากหุ้นนั้นสามารถนับเป็น Passive Income ได้
นี่คือตารางเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดขึ้น
8 เส้นทางปก Passive Income ที่ใครๆ ก็ทำได้
1. สร้างผลงานดิจิทัลแล้วขายต่อยาวๆ
หนังสือ เพลง เท็มเพลท ภาพถ่าย รูปวาด ล้วนสามารถกลายเป็นแหล่งรายได้ถาวรได้ผ่านเทคโนโลยี เพราะค่าการผลิตต่อหน่วยสุดท้ายเป็นศูนย์ แพลตฟอร์มเหล่านี้ช่วยเหลือ: Shutterstock และ Adobe Stock (ภาพถ่าย), Amazon และ MEB (E-book), Canva (เท็มเพลตดิจิทัล), หรือแม้แต่ YouTube และ Facebook (วิดีโอสั้น)
ข้อดี:
ข้อเสีย:
2. เงินฝากประจำ – วิธีเก่าแกที่ยังตัวอยู่
การฝากเงินไปเป็นระยะเวลา (ครึ่งปี หนึ่งปี) แบ่งธนาคารจ่ายดอกเบี้ยตามอัตราคงที่ ถือว่าเป็นการสร้าง Passive Income แบบดั้งเดิมที่เรียบง่าย ไม่ต้องลงแรงแถมความเสี่ยงต่ำ
ข้อดี:
ข้อเสีย:
3. พันธบัตรและหุ้นกู้ – ลงทุนที่เสถียร
เมื่อซื้อพันธบัตร คุณกำลังให้ยืมเงินแก่รัฐหรือบริษัท พวกเขาจ่ายดอกเบี้ยตามอัตราที่ระบุไว้ (Coupon Rate) อย่างสม่ำเสมอ ดอกเบี้ยอาจสูงหรือต่ำขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงของผู้ออก
ข้อดี:
ข้อเสีย:
4. ประกันสะสมทรัพย์ – ออมและประกันพร้อมกัน
เบี้ยประกันจะสะสมเป็นเงินต้นแล้วจ่ายคืนพร้อมดอกเบี้ย (ปกติ 2-3% ต่อปี) เมื่อครบอายุ ครั้งเดียวแต่ยิ่งใหญ่
ข้อดี:
ข้อเสีย:
5. ปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ – รายได้จริงจากทรัพย์สิน
ถ้าคุณมีบ้าน คอนโด หรือพื้นที่ว่างให้เช่น ทุกเดือนก็มีค่าเช่าเข้ามา ในขณะเดียวกัน ราคาอสังหาริมทรัพย์ยังเติบโตตามตัวอื่นๆ
ข้อดี:
ข้อเสีย:
6. หน่วยลงทุน REIT – สิทธิในอสังหาริมทรัพย์โดยไม่ต้องมีมัน
REIT (Real Estate Investment Trust) เป็นเครื่องมือที่ให้คนธรรมชาติสามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้ เงินปันผลมาจากค่าเช่าและรายได้ของสินทรัพย์ที่ทรัสต์ถือไว้
ข้อดี:
ข้อเสีย:
7. หุ้นปันผล – เป็นเจ้าของบริษัท และได้กำไร
Dividend Stock เป็นหุ้นของบริษัทที่มีกำไรสม่ำเสมอและสามารถจ่ายปันผลสูงคงเส้นคงวา ได้รับปันผล 6-8% ต่อปีไป (ขึ้นอยู่กับต้นทุนและจำนวนปันผล)
ข้อดี:
ข้อเสีย:
8. Staking คริปโท – นวัตกรรมใหม่กับความเสี่ยงสูง
สำหรับสกุลเงินดิจิทัล คุณสามารถฝากเหรียญไปยัง Pool เพื่อได้ผลตอบแทน (3-5% หรือมากกว่า) Staking กลายเป็นทางเลือกใหม่ที่ให้ผลตอบแทนสูง
ข้อดี:
ข้อเสีย:
ปิดท้ายด้วยตัวเลือกของตัวเอง
Passive Income มีอะไรบ้าง และจะเลือกอันไหน ขึ้นอยู่กับเงินทุน เวลา ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ สิ่งเหล่านี้อาจเอามารวมกันให้สร้างรายได้พหุวิธี ความจริงคือ Passive Income ช่วยให้ใครก็ได้ไปสู่อิสระทางการเงินได้เร็วขึ้นกว่าพึ่ง Active Income คนละคนก็มีเส้นทางของตัวเอง ไม่ต้องเลียนแบบใคร