1. การ Stake อีกครั้ง

หลังจากการอัพเกรดชั้นเลิศ โซ่บีคอนเปิดการถอนเงิน ทำให้อัตราการเสนอเสนอ ETH เพิ่มขึ้นจาก 14.13% เป็น 21.46% ทุกวันมีผู้ตรวจสอบ 2470 คน ได้รับอนุญาตให้ออกหรือเปิดใช้งาน การเพิ่มความสะดวกสบายของโหนดเป็นพื้นฐานสำหรับโปรโตคอล LSD ใหม่ในการแข่งขันเพื่อควบคุมตลาด ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน ถึงปัจจุบัน ส่วนแบ่งตลาดของ Lido ลดลงเล็กน้อยเหลือ 30.77% ในขณะที่ส่วนแบ่งตลาดของโปรโตคอล LSD 3 อันดับแรกเพิ่มขึ้นเป็น 34.84%

ความซับซ้อนของโครงสร้างผลิตภัณฑ์ ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของเครือข่ายทางด้านตรงและตรงข้ามเป็นอันดับแรก และความยากลำบากทางเทคนิคและความเชื่อถือที่เกิดขึ้นจากปัญหาด้านความปลอดภัยเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดสำหรับโปรโตคอล LSD ใหม่

Puffer มีกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่เรียกว่าโมดูลการถือครองใหม่ ๆ มันมีโมดูลการทดสอบใหม่ ๆ หลากหลายประเภท แต่ละรายการมีแอปพลิเคชัน EigenLayer หรือ AVS ที่เป็นเอกสิทธิ์ในการเรียกใช้งาน

2. อนาคตของการ Staking อีกครั้ง - Puffer

Puffer เป็นแพลตฟอร์มการ Stake ที่เป็นเจ้าของ ที่สร้างขึ้นบน Eigenlayer มันนำเสนอ Liquid Restaking Tokens (nLRTs) ซึ่งเป็นเหรียญที่สามารถสะสมรางวัลจากการ Stake และการ Stake ใหม่ได้ โหนดในโปรโตคอลใช้เทคโนโลยี anti-slashing ของ Puffer เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพทางการเงิน พร้อมกับเพิ่มผลตอบแทนผ่านการ Stake ที่เป็นเจ้าของ ภาระภาษีหลักของ Puffer คือการรักษา “ความเชื่อถือต่อการเป็นกลาง” ของ Ethereum และเพิ่มและรักษาความกระจายของ Ethereum

เทคโนโลยีตัวรวมที่ปลอดภัยของ Puffer ซึ่งเป็นรากฐานสำหรับการสร้างโปรโตคอลเพื่อการโปรโตคอลการเสมือนเหลือ อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง Secure-Signer เป็นเครื่องมือสำหรับการลงนามระยะไกลที่สามารถป้องกันความเสี่ยงจากข้อละเมิดที่ร้ายแรงที่เกิดจากข้อผิดพลาดของไคลเอนต์ของความเห็นหรือข้อผิดพลาดของผู้ใช้

โปรโตคอลการ Stake ของ Puffer ถูกออกแบบขึ้นโดยให้ความสำคัญกับความเบ็ดเสร็จ หนึ่งในวิธีคือผ่านวิธีการบริหารจัดการของมัน ไม่เหมือนโปรโตคอลอื่น Puffer ไม่พึงพอใจกับการโหวต DAO ในการเข้าร่วม validator ใหม่และตรวจสอบ ไม่ต้องการสถาบันที่มีอำนาจในการตัดสินใจว่าใครสามารถเข้าร่วมในระบบเป็นผู้ดำเนินการโหนดใน พูล Puffer โดยทำให้มีชุด validator ที่หลากหลายและมีความกระจาย

Validators สร้างรางวัล proof of stake, คล้ายกับโปรโตคอลการจ่ายเงินสดมาตรฐาน แต่ Puffer สามารถสร้างรางวัลเพิ่มเติมจากการทำ Staking อีกด้วยผ่าน EigenLayer

Secure Signer ของ Puffer: Secure-Signer เป็นการใช้งานเครื่องมือลงนามระยะไกล Web3Signer ของ ConsenSys อย่างอิสระ ผู้ลงนามระยะไกลเป็นโมดูลในสแต็คผู้ตรวจสอบทําให้สามารถย้ายการจัดการคีย์และตรรกะการลงนามออกนอกไคลเอนต์ฉันทามติได้

สัญญา RAVE: ใช้สัญญา RAVE สำหรับการตรวจสอบการพิสูจน์ไกล ซึ่งช่วยให้โหนดเข้าร่วมโดยไม่ต้องขออนุญาตและพิสูจน์ต่อสัญญาว่าคุณกำลังเรียกใช้เหตุการณ์ที่คาดหวังใน Enclave

โมดูลการ Staking ซึ่ง Puffer มีกลยุทธ์หลายรูปแบบที่เรียกว่าโมดูลการ Staking ซ้ำ Puffer มีโมดูลการทดสอบที่หลากหลาย แต่ละอันมีชุดของ EigenLayer applications หรือ AVS ที่เปิดให้ทำงาน พวกเขาฝากหลักทรัพย์และยืม ETH จากพูลเพื่อสร้างตัวตรวจสอบ แต่ละโมดูลการ Staking ซ้ำเข้าร่วมในเซต AVS ที่แตกต่างกัน

การลงทะเบียนผู้ตรวจสอบ: ผู้ตรวจสอบเลือกกลยุทธ์ที่เฉพาะเจาะจง ส่งหลักฐานบนเชน และชำระเงินมัดจำและการสัญญาเรียบ สัญญาจะคิวพวกเขาให้เป็นผู้ตรวจสอบที่รอดำเนินกับกลยุทธ์นั้น ผู้ปกครองตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลรับส่งเงินถอนและข้อความมัดจำ และจึงให้ ETH เพื่อส่งผู้ตรวจสอบไปที่เชนบีคอน

3. Puffer ทำอะไร?

Pufferกำลังพัฒนา LSP ที่มีประสิทธิภาพทางทุนและไม่จำเป็นต้องขออนุญาตอย่างสมบูรณ์เพื่อลดค่าเข้าสู่การเป็นผู้เสมือนที่บ้านและแข่งขันกับ LSPs แบบกึ่งกลางในเรื่องของรางวัล โครงสร้างใช้เทคโนโลยี anti-slashing ของ Puffer อย่างเต็มที่และมีการให้คำแนะนำทางนวลสำหรับโทษการไม่ใช้งาน ลดข้อกำหนดทางค้ำประกันเพียงแค่การสะสม Ether 2

ด้วยปัจจัยสำคัญของเทคโนโลยี restaking ที่เกิดขึ้น อนาคตของ Ethereum จะเคลื่อนไปสู่การนำมาใช้ในมวลผ่าน ZK-rollups เมื่อกิจกรรมเศรษฐกิจเลื่อนไปสู่เลเยอร์ 2 ผลที่เกิดจากข้อผิดพลาดของ ZK-rollup หรือการใช้ช่องโหว่อาจส่งผลให้มีจำนวนเงินมหาศาลเป็นพันล้านเหรียญ ทำให้ความเชื่อในเทคโนโลยีลดลงและขัดขวางการนำมาใช้ในมวล

การระมัดระวังต้องมีการดำเนินการเพื่อให้ระบบสามารถเรียบร้อยและปลอดภัยในการเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตที่มุ่งเน้นที่ ZK ได้ Puffer ได้เริ่มต้นด้วยการขยายเทคโนโลยี Anti-Slashing ของเราเพื่อนำมาใช้ดำเนินการ ZK-2FA ซึ่งเป็นระบบหลายพิสูจน์ที่มุ่งเน้นไปที่การเสริมความปลอดภัยของ ZK-rollups และให้ความช่วยเหลือในช่วงเริ่มแรกของมัน

การ Staking เดี่ยวไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ถือ Ethereum ทั้งหมด สำหรับผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญทางเทคนิค โครงสร้างพื้นฐาน หรือเงินทุนเพียงพอ โปรโตคอลการ Staking ความเหมาะสมของ Likelihood Staking Protocols (LSPs) กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง LSPs ได้รับประโยชน์จากอัตราส่วนของมาตรา ทำให้มีความดันทางส่วนกลางเพิ่มเติมสำหรับชุด Validator

4. เทคโนโลยี Puffer Secure-Signer

Puffer ได้พัฒนา Secure-Signer, เทคโนโลยีลายเซ็นที่ปลอดภัยและ RAVe ที่เป็นเทคโนโลยีพิสูจน์ระยะไกล โดยใช้ประโยชน์จาก Trusted Execution Environment (TEE) ที่ได้รับจากฮาร์ดแวร์ Intel SGX ซึ่งย้ายการจัดการคีย์ของผู้ตรวจสอบและตรรกะการลงลายจากไคลเอ็นต์ชัดเจนไปยัง Enclave เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดของผู้ตรวจสอบที่อาจทำให้เกิดค่าปรับทางการเงินผ่านตรรกะการลงลายที่บังคับและการเข้าถึงคีย์ส่วนตัวของผู้ตรวจสอบที่ถูกจำกัด

Secure-Signer เป็นเครื่องมือลงนามระยะไกลที่สามารถโต้ตอบกับไคลเอนต์ฉันทามติของ Ethereum เพื่อป้องกันการโจมตีที่สามารถลดเงินเดิมพันได้อย่างมาก มีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันการโจมตีขนาดใหญ่โดยใช้ Intel SGX

เป็นโซลูชันที่ประหยัดและใช้งานง่ายเพื่อหลีกเลี่ยงบทลงโทษทางการเงิน ยิ่งไปกว่านั้นเทคโนโลยีทั้งสองนี้ไม่ได้มีเอกสิทธิ์ร่วมกัน ผู้ตรวจสอบความถูกต้องสามารถใช้ทั้งสองอย่างได้ เนื่องจากความเสี่ยงของการลงโทษทางการเงินสําหรับโหนดลดลงโปรโตคอล Puffer สามารถลดหลักประกันโหนดลงเหลือ 2ETH ได้อย่างสมเหตุสมผลซึ่งช่วยลดเกณฑ์การมีส่วนร่วมสําหรับการปักหลักของแต่ละบุคคลได้อย่างมาก การพัฒนาและการนําเทคโนโลยีเหล่านี้ไปใช้ได้รับการยอมรับและบริจาคโดยมูลนิธิ ETH

เพื่อป้องกันการตัดสินให้เกิดจากการเซ็นเนอร์คู่ที่สามารถสร้างและป้องกันคีย์ผู้ตรวจสอบ BLS ทั้งหมดในหน่วยความจำที่เข้ารหัสและป้องกันการแก้ไขได้ คีย์เหล่านี้สามารถเข้าถึงได้เฉพาะขณะทำงานและยังคงเข้ารหัสเมื่ออยู่ในสถานะพัก ทำให้เข้าถึงไม่ได้กับโหนด นอกจากกรณีที่ถูกใช้เพื่อเซ็นเนอร์ข้อเสนอบล็อกหรือการรับรองที่ไม่สามารถตัดสิน

เนื่องจากคีย์ถูกผูกไว้กับ Secure-Signer และถูกเก็บอยู่ในสถานะที่เข้ารหัสแล้ว จึงไม่มีความเสี่ยงที่จะถูกใช้ในหลายลูกค้าของความเห็นร่วม ซึ่งจะป้องกันโหนดจากการลบโดยบังคับอุบัติเหตุเนื่องจากการเซ็นลายเซ็นคู่ นอกจากนี้ หากระบบของพวกเขาถูกบุกรุก คีย์ของพวกเขาจะได้รับความคุ้มครองจากผู้แฮกเกอร์

โครงสร้างโปรโตคอลของ Puffer คล้ายกับ Rocket Pool แต่ลดความเสี่ยงของโทษผ่านเทคโนโลยีลายเซ็นรักษาความปลอดภัย Secure-Signer ที่พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งช่วยให้เงินมัดจำโหนดลดลงเหลือ 2 ETH (เงินมัดจำขั้นต่ำสำหรับ Rocket Pool ในปัจจุบันคือ 8 ETH) สิ่งนี้ช่วยลดค่าเข้าร่วมสำหรับการเสี่ยงทางบุคคลและเพิ่มการเปิดทรัพย์หมุนเวียน การเพิ่มการเปิดทรัพย์หมุนเวียนช่วยโปรโตคอลกำหนดอัตราค่าดำเนินการโหนดลง ซึ่งเพิ่มอัตราผลตอบแทนของเงินของผู้ใช้ ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับ Puffer ในการแข่งขันเพื่อควบคุมตลาด ในเวลาเดียวกัน Puffer เสริมอัตราผลตอบแทนโดยรวมโดยรวมโดยการรวมกับ Eigenlayer

5. เทคโนโลยี Puffer RAVe

RAVe เป็นส่วนที่สองของทุนมูลนิธิอีเธอเรียมของ Puffer ซึ่งแทน Remote Attestation Verification ชุดสมาร์ทคอนแทรคส์สำคัญเหล่านี้ช่วยให้ enclaves สามารถโต้ตอบอย่างปลอดภัยกับบล็อกเชนและช่วยทำให้โปรโตคอล Puffer เป็นแบบไม่มีการอนุญาต

กระบวนการ Remote Attestation (RA) ช่วยให้ฝ่ายที่ไม่น่าเชื่อถือสามารถพิสูจน์ว่าพวกเขากำลังทำงานใน SGX enclave ที่เฉพาะเจาะจง โดยเนื่องจากแต่ละ enclave มีอำนาจทำงานเพียงเพื่อโปรแกรมเริ่มต้นของตน RA ช่วยให้คนหนึ่งพิสูจน์ต่อคนอื่นได้ว่าพวกเขาสามารถทำงานเพียงเพื่อโปรแกรมเฉพาะ

โหนดใช้ RA เพื่อพิสูจน์ว่าพวกเขากำลังทำงานในเครื่องชัยที่ปลอดภัย และสัญญาอัจฉริยะ RAVe ยืนยันหลักฐาน RA ของโหนดและลงทะเบียนกุญแจสาธารณะของผู้ตรวจสอบ นี้ช่วยให้โหนดสามารถสร้างกุญแจผู้ตรวจสอบใหม่ได้และยืนยันผ่านรหัสต้นฉบับว่าเครื่องชัยที่ปลอดภัยจะไม่หลุดข้อมูล

6. แสดงข้อมูล Puffer

ปริมาณการ stake ปัจจุบันของ Puffer คือ 1.336 พันล้านเหรียญดอลลาร์ และการ stake ของมันมีความเสถียร โดยมีปริมาณการ stake สูงสุดที่ 1.493 พันล้านเหรียญดอลลาร์ ก่อนที่ Renzo จะเปิดตัวงาน double-staking event Puffer ก็เคยเป็นโปรโตคอลชั้นนำในแทร็กการ stake อีกครั้ง หลังจากที่ Renzo เปิดตัวงานในเดือน มกราคม ปริมาณการ stake ของมันก็เกิน Puffer ทันที

ปริมาณการถือครองปัจจุบันคือ 456,731 stETH โดยมองไปที่ข้อมูลปริมาณการถือครองต่ำสุด มีแนวโน้มของการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และปริมาณการถือครองในอนาคตอาจยังแสดงแนวโน้มขึ้น

7. การเงิน Puffer

ตั้งแต่ก่อตั้งมา Puffer ได้ดำเนินการทำการจัดหาเงินทุนทั้งหมด 5 ครั้ง โดยมียอดเงินทุนรวมถึง 24.3 ล้านดอลลาร์และมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในการแข่งขัน restaking

เหตุการณ์ทุนเริ่มแรกเกิดขึ้นในวันที่ 1 มกราคม 2023 นี้เป็นรอบทุนเบื้องต้นที่ได้รับเงิน 650,000 ดอลลาร์ นำโดย JumpCrypto มีการเข้าร่วมจาก IoTeX และ Acanam Capital โดยมีรวม 3 สถาบันที่เข้าร่วมในการจัดหาทุนนี้

เหตุการณ์การจัดหาเงินทุนครั้งที่สองเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2566 โดยมีกิจกรรมทางการเงินสองเหตุการณ์ในวันเดียวกัน มูลนิธิ Ethereum ดําเนินการระดมทุนให้กับ Puffer ด้วยจํานวนเงินระดมทุน 120,000 ดอลลาร์ การจัดหาเงินทุนอีกรอบนําโดย Faction และ Lemniscap โดยมีสถาบันที่เข้าร่วมได้แก่ Brevan Howard Digital, Bankless Ventures, Animoca Ventures, Kucoin Ventures, DACM, LBK, SNZ, Canonical Crypto รวมถึงมูลนิธิชุมชน 33DAO, WAGMI33 และ Concave เป็นต้น นักลงทุนแองเจิล ได้แก่ Anand Iyer (Lightspeed Partner), Sreeram Kannan (ผู้ก่อตั้ง Eigen Layer), Frederick Allen (ผู้อํานวยการธุรกิจ Coinbase Staking), Godfish (ผู้ร่วมก่อตั้ง F2pool และ Cobo), Mr. Block (ผู้สนับสนุนหลักของ Curve), Ramble ฯลฯ ระดมทุนได้ทั้งหมด 5.5 ล้านดอลลาร์

งานระดมทุนครั้งที่สามเกิดขึ้นในวันที่ 30 มกราคม 2024 นี้เป็นรอบระดมทุนเมล็ดพันธุ์ที่สอง จำนวนเงินทุนที่ระบุไม่เปิดเผย โดยมี Binance Labs เป็นผู้นำ และมีการเข้าร่วมจาก Jump Crypto, Faction และ BH Digital

เหตุการณ์ทางการเงินครั้งที่สี่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2024 การจัดหาเงินทุนรอบนี้ระดมทุนได้มากถึง 18 ล้านดอลลาร์และโครงการมีมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ นําโดย Electric Capital และ Brevan Howard Digital โดยมีส่วนร่วมจากสถาบันต่างๆ เช่น Coinbase Ventures, Lemniscap, GSR, Faction, Mechanism Capital, Mask Network, SNZ Holding, Animoca Brands, Kraken Ventures, Franklin Templeton, ConsenSys Mesh, stakefish, LongHash Ventures, Formless Capital, Avon Ventures, Inception Capital, InfStones, Canonical Crypto, Ebunker, CoinSummer Labs, Web3Port, A41, Dewhales Capital, SwissBorg Ventures, LeadBlock Partners, Breed VC, Heart Source Capital, Everstake Capital, Moonhill Capital, Bas1s Ventures, Fish God, Andrew Kang, Sandeep Nailwal, Jia Yaoqi, Stephane Gosselin, Anthony Ramirez, Saeed Badreg, cygaar, Winslow Strong, Anton Buenavista, Spencer Yang, Lewis Tuff และ Keegan Selby

8. ทีม Puffer

Jason Vranek เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการเทคโนโลยีของ Puffer Finance เคยเป็นวิศวกรวิจัยที่ Chainlink Labs เขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย California แห่ง Santa Cruz

Amir Forouzani เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Puffer Finance เคยเป็นผู้ช่วยวิจัยที่สถาบันฟิสิกส์ของ Santa Cruz และสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในซานเดียโก

คำอธิบาย:

1. บทความนี้ถูกคัดลอกมาจาก [Gatepanews] ลิขสิทธิ์เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ [xPanse World] หากคุณมีข้อตรงข้อเสียงใดๆในการนำเผยแพร่ต่อ กรุณาติดต่อทีม Gate Learnทีมงานจะจัดการโดยเร็วที่สุดตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง

2. คำปฏิเสธ: มุมมองและความคิดเห็นที่แสดงอยู่ในบทความนี้แทนเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลของผู้เขียนเท่านั้น และไม่เป็นการให้คำแนะนำทางการลงทุนใด ๆ

3. เวอร์ชันภาษาอื่น ๆ ของบทความถูกแปลโดยทีม Gate Learn และไม่ได้กล่าวถึงGate.io, บทความที่แปลอาจไม่สามารถทำสำเนา แจกจ่าย หรือลอกเลียน