Gate Research: กระแสเด่นสัปดาห์ล่าสุด (28 มีนาคม - 2 เมษายน 2025)

มือใหม่

4/2/2025, 1:09:30 PM

Gate Research: รายงานนี้สรุปการพัฒนาที่สําคัญในอุตสาหกรรมบล็อกเชนตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคมถึง 2 เมษายน 2025 Sonic Labs ประกาศเปิดตัว SonicCS 2.0 ที่กําลังจะมาถึงโดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความเร็วฉันทามติเป็นสองเท่าและลดการใช้ทรัพยากรลงอย่างมาก ผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่บนเครือข่าย Solana ยังคงทําสถิติสูงสุดใหม่โดยขณะนี้มีที่อยู่มากกว่า 11.12 ล้านที่อยู่มากกว่า 0.1 SOL Uniswap v4 มีปริมาณการซื้อขายสะสมทะลุ 2.7 พันล้านดอลลาร์ Vitalik Buterin เปิดตัวแผนงานด้านความปลอดภัยเลเยอร์ 2 สําหรับ Ethereum โดยมุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการปรับขนาดกลไกการพิสูจน์และการรวมระบบ ระยะที่สองของ Babylon Genesis Mainnet มีกําหนดเปิดตัว Bio Protocol เปิดตัวการอัปเกรด V1 โดยแนะนําแพลตฟอร์มการเปิดตัวที่ไม่ได้รับอนุญาตและตัวแทน AI

ภาพรวม

รายงานนี้เน้นถึงการพัฒนาที่สําคัญในอุตสาหกรรมบล็อกเชนตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคมถึง 2 เมษายน 2025 Sonic Labs ประกาศเปิดตัว SonicCS 2.0 ที่กําลังจะมาถึงโดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความเร็วฉันทามติเป็นสองเท่าและลดการใช้ทรัพยากรลงอย่างมาก จํานวนผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่บนเครือข่าย Solana ยังคงทําสถิติสูงสุดใหม่โดยมีที่อยู่มากกว่า 11.12 ล้านที่อยู่ที่ถือครองมากกว่า 0.1 SOL Uniswap v4 มีปริมาณการซื้อขายสะสมเกิน 2.7 พันล้านดอลลาร์ Vitalik Buterin เปิดตัวแผนงานด้านความปลอดภัยสําหรับ Ethereum Layer 2 โดยมุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการปรับขนาดกลไกการพิสูจน์และการรวม ระยะที่สองของ Babylon Genesis Mainnet กําลังจะเปิดตัว Bio Protocol เปิดตัวการอัปเกรด V1 โดยแนะนําแพลตฟอร์มการเปิดตัวที่ไม่ได้รับอนุญาตและตัวแทน AI

โครงการ

Sonic Labs เปิดตัว SonicCS 2.0 พร้อมความเร็ว 2 เท่า และการใช้ทรัพยากรลดลง

ในวันที่ 28 มีนาคม Sonic Labs (ก่อนหน้าเป็น Fantom) ประกาศบนแพลตฟอร์ม X ว่าจะเปิดตัวโปรโตคอลคอนเซ็นซัสใหม่ SonicCS 2.0 โปรโตคอลนี้มีความเร็วในการตัดสินใจเพิ่มขึ้นสองเท่าและลดการใช้หน่วยความจำลงประมาณ 68% ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิภาพของทรัพยากรอย่างมีนัยยะมาก ผู้ร่วมก่อตั้ง Andre Cronje ระบุว่าทีมจะดำเนินการปรับปรุงโปรโตคอลต่อจนกว่าจะใกล้เคียงกับขีดจำกัดทางกายภาพในเรื่องประสิทธิภาพ เน้นให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งของพวกเขาในสถาปัตยกรรมที่มีประสิทธิภาพสูง

SonicCS เป็นโมดูลคอร์ที่พัฒนาขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์อัพเกรดขั้นตอนถัดไปของ Sonic มันมุ่งเน้นที่จะให้ความยืดหยุ่นที่มากขึ้นสำหรับบล็อกเชนชั้นที่ 1 โดยรักษา latenct ต่ำและ throughput สูงพร้อมลดความซับซ้อนของการคำนวณ การเปิดตัว SonicCS 2.0 คาดว่าจะส่งผลให้มีประสบการณ์ on-chain ที่เรียบขึ้น ในระบบนิเวศของ Sonic โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเรื่อง DeFi, AI, และเกม

จากมุมมองของตลาด ในขณะที่การอัพเกรดโปรโตคอลที่เน้นผลการทำงานอาจไม่สะท้อนในราคาโทเค็นทันที แต่มันมีผลต่อการเข้าถึงของนักพัฒนาและประสบการณ์ของผู้ใช้ในระยะยาว หากการใช้งานสำเร็จ SonicCS 2.0 อาจเสริมความแข่งขันทางเทคนิคของ Sonic และดึงดูดผู้สร้างมากขึ้นสู่นิสิต์เอคโคซิสของมัน [1]

ผู้ใช้งาน Solana ที่ใช้งานอย่างเต็มที่เพิ่มขึ้นมากใหม่ ที่อยู่ที่ถือมากกว่า 0.1 SOL เกิน 11.12 ล้าน

ถึงวันที่ 30 มีนาคม จำนวนของที่อยู่บนเครือข่าย Solana ที่ถือมากกว่า 0.1 SOL เกิน 11.12 ล้าน ที่สูงสุดมาแล้ว ไม่เหมือนจำนวนที่อยู่ทั้งหมด ตัวชี้วัดนี้สามารถบ่งบอกถึงการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่ามีจำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มมากขึ้นที่รักษาระบบกำลังถือทุนที่มีความหมายบน Solana

แม้จะมีการคูลดาวน์เมื่อเร็ว ๆ นี้ในตลาด crypto ที่กว้างขึ้นด้วยปริมาณการซื้อขายที่ลดลงและความผันผวนที่ลดลง แต่เครือข่ายหลักของ Solana ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จํานวนที่อยู่ที่ถือครองมากกว่า 0.1 SOL เพิ่มขึ้นจาก 9.54 ล้านที่ต้นปี 2025 เป็น 11.13 ล้านรายการภายในวันที่ 31 มีนาคม ซึ่งเพิ่มขึ้น 16.6% การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้จํานวนมากเลือกที่จะถือผ่านขั้นตอนการรวมตลาดซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่องในศักยภาพระยะยาวของ Solana ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพเครือข่ายและประสิทธิภาพด้านต้นทุนอย่างต่อเนื่องปัจจัยพื้นฐานแบบ on-chain ของ Solana จึงแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่องวางรากฐานเชิงบวกสําหรับกิจกรรมระบบนิเวศในอนาคตและการฟื้นตัวที่อาจเกิดขึ้นในความเชื่อมั่นของตลาด [2]

Uniswap v4 เกิน 2.7 พันล้านดอลลาร์ในปริมาณการซื้อขายสะสม

ตั้งแต่ 30 มีนาคม ยูนิสว็อปเวอร์ชัน 4 ได้บันทึกมูลค่าการซื้อขายสะสมมากกว่า 2.7 พันล้านดอลลาร์ตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 30 มกราคม โดยเน้นที่ความน่าสนใจของโครโตคอลแบบใหม่ของโปรโตคอล ประเทศส่วนใหญ่ของปริมาณการซื้อขายนี้มาจากสี่เครือข่าย: Ethereum mainnet, Arbitrum, Base, และ BNB Chain ซึ่งเป็นการแสดงถึงประสิทธิภาพของยูนิสวอปในยุคที่มีการใช้งานหลายๆ โซน

Uniswap v4 มีการนำเสนอกลไกเบ็ดเสร็จที่ยืดหยุ่นมากขึ้น และปรับปรุงความหยุ่นย่นและการจัดการกําไรด้วยกําลังแกําลังดึงดูดความสนใจจากนักพัฒนาและผู้ให้บริการความเหมาะสมในการจัดการของเหลว (LP) ระดับสูงเช่นเครือข่ายชั้นที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพสูงอย่าง Base และ Arbitrum ก็มีส่วนร่วมในปริมาณการทําธุรกรรมที่สําคัญ เสริมความสามารถในการขยายและระดับของ v4 ไปทั่วโซ่

นอกจากนี้เนื่องจากการเปิดตัวของ v4 เป็นระยะเวลาที่ส่วนใหญ่ Uniswap v3 เรียนมีการใช้งานมากที่สุด มันยังคงขยายตัวไปยังเชนเช่น Arbitrum และ Polygon โดยเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ของผู้ใช้ การใช้งานต่อเนื่องนี้ช่วยรักษาความเป็นผู้นำของ Uniswap ในพื้นที่ DEX ในขณะที่กำลังเตรียมพื้นฐานสำหรับการเปลี่ยนเป็น v4 อย่างเต็มรูปแบบ ในระยะสั้นๆ คาดว่า v3 จะยังคงดำเนินฟังก์ชันการซื้อขายหลักและสนับสนุนการดำเนินการอย่างมั่นคงของระบบนิวนิสวัคของ Uniswap

Vitalik ปล่อย Ethereum Layer 2 แผนการรักษาความปลอดภัย ซึ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพ พิสูจน์ และการรวมกัน

ในวันที่ 29 มีนาคม ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum Vitalik Buterin ได้เผยแพร่โครงการถนน Security และ Finalization ระดับ L2 ที่เรียบง่ายโดยกำหนดเส้นทางที่มีสามพื้นที่หลักที่มีการปรับปรุงสำหรับเครือข่าย Layer 2: ความปลอดภัย, ความสมบูรณ์, และความสามารถในการขยายขนาด เป้าหมายของเส้นทางเป็นเพื่อช่วยให้ Ethereum ขยายขนาดได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและในทางที่มีความเชื่อมั่นมากขึ้น

การอัปเกรด Pectra ที่กำลังจะมาถึงจะขยายพื้นที่ blob และการอัปเกรด Fusaka ที่วางแผนวางที่จะมาถึงในปีหน้านี้ คาดว่าจะเพิ่มความจุข้อมูลได้อีก ในระหว่างนี้ ความก้าวหน้าใน ZK-EVM เทคโนโลยีสามารถลดเวลาในการเสร็จสิ้นอย่างมีนัยสำคัญ ความพยายามในการปรับปรุง L2 ของ Ethereum จะเน้นที่สามพื้นที่สำคัญ: การขยายความจุของ blob เพิ่มเติม, การนำเสนอกลไขพิสัยผสม, และการสร้างชั้นการรวมพิสัย ZK อย่างรวมถึง การปรับปรุงเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัย, ลดความพึงพอใจในวิธีการเทคนิคแบบเดียวเท่านั้น, และลดค่า gas อย่างมีนัยสำคัญ

โครงการนี้มุ่งเน้นการขยายขอบเขตและการลดความไว้วางใจของระบบ Ethereum Layer 2 อย่างต่อเนื่อง ด้วยความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับกิจกรรม on-chain และความสามารถในการทำงานร่วมกันระหว่างเชน การขยายขนาดของ blob และระบบพิสูจน์ที่เป็นเอกสารกลุ่มเดียวกันจะเป็นสิ่งสำคัญในการเสริมประสบการณ์ของผู้ใช้และให้ความสำเร็จในการพัฒนาระบบนิเวศ ซึ่งเมื่อโครงสร้างพื้นฐานเริ่มเปลี่ยนแปลง L2 networks จะเข้าสู่ระยะใหม่ของประสิทธิภาพสูงและ laten ต่ำ

Babylon Genesis Mainnet Phase Two Set to Launch

เฟสที่สองของเครือข่ายหลัก Babylon Genesis กำลังจะเปิดตัว เพื่อเป็นบล็อกเชนชั้นที่ 1 แรกที่ได้รับการคุ้มครองโดย Bitcoin staking มันจะเป็นชั้นควบคุมของระบบนิเวศ Babylon และศูนย์กลางสำหรับการเงินที่มี Likelihood ตาม Bitcoin (BTCFi) นี้แทนความเปลี่ยนแปลงในบทบาทของ Bitcoin—จากการเป็นเพียงแหล่งเก็บสินค้าค่าเป็นพื้นฐานสำหรับการประยุกต์ใช้บล็อกเชนที่กว้างกว่า ดึงความสนใจจากนักพัฒนาและนักลงทุนเพิ่มขึ้น

ตามทีมโครงการบอกว่า ระยะนี้คาดว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพในการขยายขอบของนิวเครเวอร์ของบิตคอยนอลอย่างมีนัยยะมาก บาบีลอน เจเนซิสถูกออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์จากรูปแบบความปลอดภัยของบิตคอยนอลโดยเปิดให้เข้าถึงการใช้เงินสำหรับการให้ความปลอดภัยบนเชน ทำให้มีพื้นฐานสถาปัตยกรรมที่เสถียรและเสถียรให้ความสนใจสำหรับนิวนิเทรียเครเวอร์ของมัน สถาปัตยกรรมนวัตกรรมนี้ไม่เพียงเพียงสร้างความมั่นใจในโครงการเองเท่านั้น แต่ยังเสนอทางเลือกใหม่สำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีและโมเดลธุรกิจใหม่ในอุตสาหกรรม

สําหรับบาบิโลนการเปิดตัว Genesis Mainnet นับเป็นก้าวสําคัญในแผนงานทางเทคนิคซึ่งอาจเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดและขยายฐานผู้ใช้ หลังการเปิดตัวโครงการจะเผชิญกับความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับความเสถียรของเครือข่ายและการศึกษาของผู้ใช้ สําหรับโครงการเลเยอร์ 1 อื่น ๆ เช่น Ethereum และ Solana นวัตกรรมของ Babylon อาจเพิ่มแรงกดดันในการแข่งขันกระตุ้นให้พวกเขาพัฒนาคุณสมบัติที่เข้ากันได้กับ Bitcoin ต่อไป รูปแบบการปักหลัก Bitcoin สามารถเปิดโอกาสในการสร้างรายได้ใหม่สําหรับพันธมิตรระบบนิเวศเช่นนักขุด Bitcoin

เมื่อเร็วๆ นี้ การเปิดตัว Babylon Genesis Mainnet คาดว่าจะส่งผลให้ระบบ Bitcoin หลากหลายมากขึ้นและดึงดูดความสนใจจากสถาบันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม มันก็อาจกระตุ้นการตรวจสอบด้านกฎหมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับความปลอดภัยและการกระจายอำนาจของ Bitcoin staking [6]

Bio Protocol สร้าง V1 อัปเกรดพร้อมแพลตฟอร์มเปิดใช้งานแบบไม่จำกัดและเอเจนต์ AI

แพลตฟอร์มวิทยาศาสตร์ที่ไม่มีศูนย์กลาง (DeSci) Bio Protocol ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ V1 โมเดลการอัพเกรด ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงจากโมเดลแบบเร่งรัดเป็นแพลตฟอร์มเปิดและอัตโนมัติสำหรับการทำเงินทางวิทยาศาสตร์ การอัพเกรดนำเสนอแพลตฟอร์มการเปิดใช้งานได้โดยไม่ต้องรออนุญาต ทำให้ผู้ใช้โทเคน BIO สามารถลงคะแนนในโครงการเทคโนโลยีชีวภาพ โครงการที่มีการสนับสนุนจากชุมชนเพียงพอสามารถดำเนินการไปสู่ขั้นตอนการระดมทุนสาธารณะและเฟสการลงทุนอัตโนมัติ แพลตฟอร์มยังนำเสนอ BioAgents ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่ออกแบบมาเพื่อดำเนินการงานวิจัยในโหมดอัตโนมัติ เพื่อลดเวลาการพัฒนาและต้นทุน

ในปัจจุบันสมาชิกในชุมชนสามารถเข้าร่วมลงคะแนนเสียงและการจัดทุนสำหรับโครงการ เช่น MycoDAO, SpineDAO และ ReflexDAO ผ่านเครือข่าย Solana และ Base โครงการเหล่านี้ครอบคลุมหลากหลายสาขา เช่น วิทยาศาสตร์ของเห็ด สุขภาพของกระดูกสันหลัง และการปรับสัญญาณประสาท การอัพเกรดยังสนับสนุนพื้นที่ที่เกิดขึ้น เช่น ชีววิทยาควอนตัม ซึ่งเป็นส่วนขยายของโปรโตคอลชีวภาพซึ่งเป็นรูปแบบพื้นฐานทางการเงินแบบกระจายสำหรับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์

แจ้งให้ทราบ
ผู้ใช้ควรระมัดระวังเมื่อมีการเข้าร่วม ระมัดระวังความเสี่ยง และดำเนินการวิจัยอย่างละเอียดก่อนการมีส่วนร่วม Gate.io ไม่รับประกันในการพัฒนาโครงการในอนาคต

อ้างอิง：

Gate วิจัย
Gate Research เป็นแพลตฟอร์มวิจัยบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัลอย่างครอบคลุมซึ่งสร้างสาระลึกลึกเชิงเทคนิค การวิเคราะห์เฉพาะทาง การสำรวจเรื่องร้อน การทบทวนตลาด การวิจัยอุตสาหกรรม การพยากรณ์แนวโน้ม และการวิเคราะห์นโยบายเศรษฐกิจแบบมาโคร

คลิกที่นี่เยี่ยมชมตอนนี้

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ
การลงทุนในตลาดสกุลเงินดิจิตอลเสี่ยงสูง และแนะนำให้ผู้ใช้ดำเนินการวิจัยอิสระและเข้าใจลักษณะของสินทรัพย์และผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาซื้อก่อนการตัดสินใจลงทุน Gate.io ไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจดังกล่าว

المؤلف: Ken

المترجم: Sonia

المراجع (المراجعين): Ember、Mark、Evelyn、Addie

مراجع (مراجعو) الترجمة: Joyce

* لا يُقصد من المعلومات أن تكون أو أن تشكل نصيحة مالية أو أي توصية أخرى من أي نوع تقدمها منصة Gate.io أو تصادق عليها .

* لا يجوز إعادة إنتاج هذه المقالة أو نقلها أو نسخها دون الرجوع إلى منصة Gate.io. المخالفة هي انتهاك لقانون حقوق الطبع والنشر وقد تخضع لإجراءات قانونية.

المحتوى